วันที่ 19 ธันวาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้า จับกุมนายนพมาศ อายุ 44 ปี ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ พร้อมของกลาง รถกระบะอีซุซุ รุ่น Spark สีเทากางเกงวอร์มขายาวสีดำเสื้อยืดกีฬา สีน้ำเงินรองเท้าแตะแบบสวมสีดำ ซึ่งเป็นเสื้อผ้าที่ผู้ต้องหาสวมใส่ในวันก่อเหตุ นอกจากนี้ยังมีเงินสด 30,000 บาท
ทั้งนี้ เนื่องจากเมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา นางสาว.ณัฐกานต์ อายุ 24 ปี ได้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธร มีนบุรีว่า ได้จอดรถกระบะอีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีเทา ไว้ที่ลานจอดรถหน้าหอพัก ก่อนที่วันเดียวกันได้ยินเสียงเครื่องยนต์คล้ายเสียงรถของตน เมื่อออกไปดูพบว่ามีคนร้ายขับออกไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าผู้ก่อเหตุได้ขับรถกระบะตู้ทึบยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ออกจากซอยที่เกิดเหตุไปพบคนร้ายอีกคน ขับขี่รถจยย. รุ่นพีซีเอ็กซ์ สีแดง-ดำ ไม่ทราบหมายเลข ทะเบียน มาจอดริมกำแพงหน้าคลินิกทันตกรรม ในซอยสุวินทวงศ์ 6 เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนั่งซ้อนท้ายรถจยย. มาก่อเหตุขับรถยนต์ ของผู้เสียหายหลบหนี โดยมีคนร้ายอีกคนขับขี่รถจยย.นำหน้าออกมา
ภายหลังตรวจสอบพบว่ารถกระบะตู้ทึบ เป็นรถของนายนพมาศ ซึ่งทำงานที่เดียวกัน และพักอาศัยอยู่หอพักเดียวกัน เจ้าหน้าที่เชิญตัวนายนพมาศ มาซักถาม นายนพมาศให้การว่า รู้จักกับผู้เสียหายเป็นอย่างดี ก่อนหน้านี้มีปากเสียง กันอย่างรุนแรงกับผู้เสียหาย พร้อมทวงบุญคุณ เนื่องจากไม่ขับรถพาไปบวชที่ จ.กาญจนบุรี ทำให้เกิดความแค้น ภายหลังจึงแอบเอากุญแจรถยนต์ของผู้เสียหายที่เผลอวางไว้ในที่ทำงานไปปั๊มกุญแจ จากนั้นร่วมกับนายอนุสรณ์ อายุ 36 ปี หรือต้น ซึ่งมีอาชีพซื้อ-ขายอะไหล่ รถยนต์ ขับขี่รถจยย.ฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ ไปก่อเหตุ แล้วเอารถไปจอดทิ้งไว้บริเวณจุดจอด ของสวนสยาม โดยนายต้นจ่ายค่าซื้อรถ 40,000 บาท แล้วนำรถไปชำแหละเป็นอะไหล่ในขายตลาดมืด เงินที่ได้มา นำไปใช้จ่ายเหลือ 30,000 บาท ขณะที่จากการตรวจสอบนายนพมาศมีประวัติถูกดำเนินคดี ข้อหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เพื่อการอนาจารกระทำชำเราฯ และข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมายพื้นที่ สน.ประชาชื่น ปี 2554 จึงนำส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินคดี และเร่งรัดติดตามจับกุมนายต้น ผู้ร่วมก่อเหตุ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป