เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลบางเขนร่วมกันไล่ล่า นายยุทธพงษ์ อายุ 30 ปีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ลงวันที่ 29 กันยายน.2564 ในความผิดฐาน”ยักยอก” โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบชายต้องสงสัยจอดรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน 4810 กรุงเทพมหานคร อยู่ริมถนนเทพรักษ์-วัชรพล ขาเข้า ก่อนถึงปั๊มน้ำมัน ปตท. แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน และเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งหนีข้ามเกาะกลางถนนไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงติดตามเรียกให้หยุด แต่ชายคนดังกล่าวกลับวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าหญ้าหายไป เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการปิดล้อมบริเวณดังกล่าวประมาณ 5 นาที จนสามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้ ทราบชื่อนายยุทธพงษ์ อยู่ในสภาพนอนนิ่งอยู่บริเวณบ่อปลาโดยมีใบไม้แห้งพรางตัวไว้เป็นอย่างดี
โดยนายยุทธพงษ์ ให้การว่า เป็นบุคคลตามหมายจับ ก่อนเกิดเหตุ เพื่อนสาวที่รู้จักได้ทักแชทไลน์ให้มารับ โดยนัดบริเวณซอยพหลโยธิน 52 เมื่อขับรถมาถึงก็พบเห็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ให้ไว้ใช้ แต่ตนยังไม่ได้เอาไปคืน จึงขับรถหลบหนี ก่อนที่น้ำมันรถจะหมดถังจึงจอดรถอยู่ริมถนน และเป็นขณะเดียวกันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านมา จึงได้ทิ้งรถวิ่งหลบหนี และยอมรับว่ามีเครื่องรางติดตัวไว้ ซึ่งระหว่างที่วิ่งหนีคาดว่าเครื่องรางของขลังได้หล่นหายไป
ด้าน นายพัฒนศักดิ์ อดีตเจ้านายผู้ต้องหา ให้การว่านายยุทธพงษ์เป็นช่างเชื่อมโลหะ ที่เข้ามาทำงานด้วยเป็นครั้งคราว กระทั่งช่วงเดือนสิงหาคม ผู้ต้องหาได้เข้ามาขอทำงานด้วย ตนเองจึงให้รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ 125 เอาไว้ใช้ 1 คัน และในวันที่ 25 สิงหาคม นายยุทธพงษ์ได้ออกอุบายว่า ขอยืมรถจักรยานยนต์ไปฉีดวัคซีน และหลังจากนั้นก็ไม่กลับมาอีกเลย ตนพยายามโทรศัพท์ไปสอบถาม ก็ไม่ยอมรับสาย ไลน์ไปหาก็ไม่ยอมตอบ และพยายามให้โอกาส กระทั่งเวลาผ่านไป 1 สัปดาห์ ก็ยังไม่เอารถมาคืน
จนกระทั่ง วันที่ 26 ตุลาคม ที่นายยุทธพงษ์ได้ติดต่อขอนัดพบกับเพื่อนผู้หญิง ที่บ้านย่านพหลโยธิน ตนพร้อมกับลูกน้อง จึงวางแผนดักซุ่มรออยู่ จนคนร้ายขับรถกระบะสีขาว หมายเลขทะเบียน 4810 กรุงเทพมหานคร มาถึง แล้วเกิดไหวตัวทันจึงขับหนี ตนก็พยายามขับรถไล่ตามจนเห็นมาจอดอยู่ข้างถนนเทพรักษ์ เขตบางเขน จู่ ๆ คนร้ายก็ทิ้งรถ แล้ววิ่งเข้าไปในบ้านของคนอื่น เพื่อไปหลบซ่อนตัวอยู่ในป่า ระหว่างนั้นตำรวจสายตรวจมาเห็นพอดี จึงได้ปิดล้อมจับกันได้ในที่สุด
