ฟาร์มดังกล่าว ตั้งอยู่พื้นที่บ้านทุ่งแสง ตำบลสงเปือย อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งนายวิทยา อายุ 48 ปี เจ้าของฟาร์ม ได้เปิด คลิปขณะเกิดเหตุ และร่องรอยกระสุนเจาะแก้วสแตนเลส พร้อมปลอกกระสุนและหัวกระสุนตกอยู่ในที่เกิดเหตุ และเล่าให้ผู้สื่อ ข่าวฟังว่า เหตุการณ์ขึ้นช่วงดึก วันที่ 28 ธันวาคม ที่ผ่านมา ขณะนั้นตนเองไม่อยู่ฟาร์มไปทำธุระที่ จังหวัด มหาสารคาม มีเพียง ลูกจ้างที่ฟาร์มคอยขายหมูให้กับลูกค้าที่เดินทางเข้ามาซื้อจำนวน 4-5 คน ก่อนที่ชายที่ถือปืนในคลิปคือ นายไหม อายุ 67 ปี อดีต ลูกจ้างในฟาร์ม ซึ่งลาออกไปเปิดกิจการขายหมูเป็นของตัวเองเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ขับรถยนต์กระบะ มาจอด ที่ฟาร์มแล้วยิงปืนขึ้นฟ้าต้อนให้ลูกน้องของตนเองที่อยู่ฟาร์ม 4-5 คนให้มารวมกัน โดยได้ถามกับลูกน้องในคลิป ซึ่งทำหน้าที่ขายหมู ให้กับตนเองที่หน้าฟาร์ม โดยอ้างว่าสั่งหมูป่า 1 ตัว ราคา 1,300 บาท เอาไซซ์ใหญ่โดยได้สั่งกับแฟนนายไหมที่ทำงานอยู่ฟาร์ม ซึ่งสั่งมาเป็นเดือนสองเดือนแล้ว แต่ลูกน้องที่ขายไม่ได้รู้เรื่องด้วย และไม่รู้ว่านายไหมสั่งอะไรกับใคร และไม่ได้มีใครมาบอกว่า ต้องขายให้นายไหมราคาเท่าไหร่ และที่นายไหมต้องการหมูไซส์ใหญ่นั้น ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะขายให้ในราคา 1,300 บาท เพราะหมู ไซส์ใหญ่ราคาต้นทุนอยู่ที่ 2,500 บาทแล้ว

โดยนายไหมได้สั่งซื้อผ่านแฟนตัวเองที่เป็นลูกน้องทำงานอยู่ที่ฟาร์ม จะนำไปเลี้ยงฉลองปีใหม่ ซึ่งแฟนนายไหมไม่กล้าขายให้ เพราะ ไม่ใช่เจ้าของร้าน และไม่รู้ราคา ซึ่งก่อนที่นายไหมจะมาที่ฟาร์มนั้น นายไหมได้ทวงถามกับแฟนเรื่องหมูที่สั่ง โดยบอกกับนายไหม ว่า ต้องให้ลูกน้องอีกคนที่อยู่ในคลิป ซึ่งรู้ราคาและมีหน้าที่รับหมูมาขายเป็นคนมาขายให้ จึงเกิดความไม่พอใจใช้อาวุธปืนไล่ยิงแฟน จนแฟนต้องหนีเข้าป่าอ้อยเพื่อเอาชีวิตรอดก่อนจะมาก่อเหตุตามในคลิป ลักษณะเหมือนเตรียมการมาอย่างดี ซึ่งขณะเกิดเหตุมีคน งานอีกคนได้ยกมือถือบันทึกภาพไว้ แต่ไม่ได้ถ่ายยาวเนื่องจากกลัวจะได้รับอันตราย ซึ่งหลังเกิดเหตุลูกน้องได้ส่งไลน์มา ให้ดูพร้อม กับโทรบอกตนเอง จึงได้ให้ลูกน้องทั้ง 4 คนเข้าแจ้งความที่ สภ.ภูเวียง

ต่อมาเมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกผู้ก่อเหตุคือนายไหม มาไกล่เกลี่ยที่โรงพักกับตนเองและลูกน้อง ที่อยู่ใน เหตุการณ์ ทั้ง 4 คน โดยได้เรียกค่าเสียหายและค่าทำขวัญเป็นเงิน 300,000 บาท แต่นายไหมไม่ยอม และไม่มีทีท่าว่า จะสลด หรือกลัวแต่อย่างใด ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปยังไม่สามารถตกลงกันได้ กระทั่งตำรวจก็ได้เรียกพยานไปสอบสวน 2 ปาก และบอก ว่าเพียงพอแล้วสำหรับการดำเนินคดี ซึ่งเวลาผ่านไปเกือบ 2 สัปดาห์ เรื่องยังเงียบคนก่อเหตุก็ยังลอยนวล ถือปืนเพ่นพ่าน ในพื้นที่ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้ตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนธุรกิจดำเนินการต่อไม่ได้ ลูกน้องเกิดความกลัวไม่กล้ามาทำงาน จำหน่ายหมูป่าส่งให้ลูกค้าตามออร์เดอร์ไม่ได้ ขาดรายได้่ช่วงปีใหม่กว่า 1 แสนบาท ซึ่งเป็นช่วงทำเงิน อยากฝากตำรวจ สภ.ภูเวียง อันดับแรกอยากให้เอาปืนออกจากมือนายไหมก่อน เพราะลูกน้องไม่กล้ามาทำงานตั้งแต่วันเกิดเหตุที่ 28 ธันวาคม ที่ผ่านมากระเจิดกระเจิงไปคนละทิศทาง งานไม่เดินตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงวันนี้ ธุรกิจส่งหมูแปรรูปก็หยุดชะงัก

เข้าชม 13 แชร์ 0
เกาะติดประเด็นสำคัญกดติดตาม "ข่าวสเตชั่น"

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ขอนแก่นยิงปืนขายหมูราคาทุน

สังคมอื่นๆ