จากกรณี นางสุธาริน อายุ 37 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงพนักงานร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งจนได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังถูกพนักงาน ร้านสะดวกซื้อจับได้ว่าแอบลักขโมยขนมปัง เจลลี่ และน้ำอัดลม ราคารวม 59 บาท เพื่อจะนำไปให้ลูกชาย 2 คน ที่รออยู่ จนทำให้คดีลักทรัพย์กลายเป็นคดีพยายามฆ่า ทำให้นางสุธารินถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขัง เพื่อนำตัวส่งฟ้องศาลต่อไปนั้น ส่งผลให้ ด.ช. เก้า อายุ 13 ปี และ ด.ช.กัส อายุ 9 ปี สองพี่น้องไร้ผู้ปกครองดูแลในทันที เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำตัวเด็กชายทั้งสองไปส่งให้กับ นางอโณทิพย์ อายุ 69 ปี ยายของเด็กทั้งสองคนที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ภายในซอยวัดลาดปลาดุก ตำบลบางรักพัฒนา อำเภอบางบัว ทอง จ.นนทบุรี อาชีพเก็บของเก่าขายและเป็นแม่บ้านทำความสะอาด ซึ่งพักอาศัยอยู่กับลูกชายอีกคนที่ป่วยเป็นเบาหวาน อาศัยอยู่ด้วย ในห้องเช่าขนาดเล็ก
นางอโณทิพย์ ผู้เป็นยายกล่าวว่า ตนเพิ่งมาทราบข่าวว่าลูกสาวไปก่อเหตุมา โดยแฟนใหม่ของลูกสาวเป็นคนโทรมาบอกก่อนที่ จะหลบหนีกันไป ซึ่งตนพยายามบอกให้ลูกสาวเข้ามอบตัว แต่ลูกสาวไม่ยอมจึงเอาหลานทั้งสองคนหนีไปด้วย จากนั้นมาทราบ ข่าวเมื่อคืนประมาณตอนสี่ทุ่มว่าลูกสาวถูกจับตัวได้แล้ว โดยแฟนใหม่ของลูกสาวโทรมาบอกให้ตนหาเงิน 2 หมื่นบาท เพื่อเตรียม ไปประกันตัว ซึ่งตนมีรายได้จากการเก็บของเก่าขายเพียงพันกว่าบาท กับค่าจ้างทำความสะอาดอีกพันกว่าบาท ตนก็ไม่รู้ว่า จะไป หา เงิน 2 หมื่นบาทจากที่ไหนมาช่วยประกันตัวลูกสาวได้ จากนั้นเมื่อคืนลูกสาวได้โทรมาขอให้ตนช่วยเลี้ยงหลานทั้งสองคนให้ด้วย ตนก็ต้องรับเลี้ยงไว้ เพราะถ้าตนไม่เลี้ยงหลานทั้งสองคนให้แล้วเด็กจะไปอยู่ที่ไหน เพราะพ่อของเด็กสองคนนี้ก็ติดคุก ในคดีฆ่าคน ตาย ก่อนหน้านี้ไปหลายปีแล้ว แล้วแม่ยังจะมาติดคุกตามไปอีก ตอนนี้ตนเป็นห่วงเรื่องเรียนของหลานทั้งสองคน เพราะคนโต เรียน แค่ ป.2 คนเล็กไม่ได้เรียนเลย ก็อยากให้เขาได้เรียนที่ใกล้ๆ ห้องพักเพราะตนไม่มีเงินที่จะส่งไปเรียนไกลๆ ได้ ลำพังแค่ค่าใช้จ่าย ก็แทบจะไม่ พอแล้ว โดยเมื่อเช้ามีเจ้าหน้าที่ พม.จ.นนทบุรี เข้ามาสอบถาม และจะจัดการเรื่องเงินเยียวยาให้เด็กคนละ 1 พันบาท
เบื้องต้นผู้สื่อข่าวได้ประสานไปทางนายกิจก้อง นาคทั่ง นายกเทศบาลเมืองบางรักพัฒนา ให้ช่วยเหลือประสานกับ พม.จ.นนทบุรี เพื่อดูแลเรื่องการศึกษาให้กับสองพี่น้องแล้ว