วันที่ 30 สิงหาคม 2565 กรมการแพทย์โดยสถาบันโรคผิวหนัง เผยสาเหตุภาวะการเกิดเล็บขบ โดยระบุว่า เกิดจากหลายสาเหตุ หากปล่อยเอาไว้อาจเกิดอาการอักเสบ บวม ติดเชื้อ และมีหนอง จึงได้ออกมาให้ข้อมูลและคำแนะนำแก่ประชาชน เพื่อทำความรู้จักกับภาวะนี้มากขึ้น
เล็บขบ คือ ภาวะที่ขอบด้านนอกของเล็บกดหรือทิ่มเข้าไปในเนื้อด้านข้างเล็บ โดยมักเป็นกับนิ้วหัวแม่เท้ามากกว่านิ้วเท้าอื่น และเกิดน้อยมากกับเล็บนิ้วมือ ทำให้เกิดการอักเสบ บวม ติดเชื้อ มีหนองที่ขอบข้างเล็บ
สาเหตุของการเกิดเล็บขบ
· ส่วนใหญ่เกิดจากความผิดสัดส่วนของปลายแผ่นเล็บกับส่วนโคนเล็บ
· รองลงมา คือ เกิดจากภาวะเล็บโค้งผิดปกติ การสวมถุงเท้า รองเท้าที่บีบแน่นเท้าแน่นเกินไป หรือมีเหงื่อออกเท้ามากกว่าปกติ ต้องรับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันไม่ให้แผลติดเชื้อ
ทางด้านนายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ยังได้เปิดเผยอีกว่า เล็บขบอาจมีหนอนอยู่ในซอกเล็บ ซึ่งเป็นหนอนแมลงวันหรือหนอนแมลงหวี่ชนิดหนึ่ง มักวางไข่ไว้บนผิวหนังที่เปิดอยู่ เช่น บนฝี บนแผล หรือไชเท้าเข้ามาในบริเวณอื่นของร่างกาย หลังจากวางไข่ 1 - 3 วัน ก็จะฟักเป็นหนอนภายใน 1 - 3 สัปดาห์ ซึ่งการเกิดภาวะนี้ส่งผลทำให้เกิดการติดเชื้อ รักษาให้หายได้ยาก และมีการอักเสบต่อไปเรื่อย ๆ ดังนั้นจึงได้แนะนำว่า ควรทำความสะอาด ระมัดระวังไม่ให้แมลงตอม หรือปิดแผลด้วยอุปกรณ์ที่เหมาะสม เพื่อให้แมลงมาวางไข่ไม่ได้
ส่วนแนวทางในการรักษานั้น สามารถทำได้หลายวิธี แต่ส่วนใหญ่มักเป็นวิธีที่ต้องได้รับการดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะการทำเองที่บ้านโดยไม่มียาชา ส่วนใหญ่มักไม่สามารถแก้ไขภาวะดังกล่าวได้ ดังนั้นการเดินทางไปพบแพทย์จึงเป็นวิธีการที่ดีกว่า ซึ่งวิธีการที่แพทย์ใช้ก็จะทำการถอดเล็บเฉพาะส่วนด้านข้าง เพื่อป้องกันไม่ให้เล็บบริเวณดังกล่าวทิ่มเข้าไปในเนื้อด้านในและลดการเล็บขบ
การป้องกัน
· สามารถทำได้ด้วยการแยกเนื้อกับขอบเล็บด้วยเทปหรือการงัดขอบเล็บขึ้นด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ แต่วิธีการนี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ และหากพบว่า มีอาการผิดปกติ แนะนำให้รีบพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการรักษาที่ถูกต้อง
ทั้งนี้สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ กรมการแพทย์ หรือโทร 02 – 590 - 6000