"มันฝรั่งเชียงราย" เจ้าแรกทางเหนือและนับเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เชียงราย เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในการเพาะปลูกมันฝรั่งอันดับสองของภาคเหนือ หลังจากจังหวัดตาก พื้นที่ที่ใช้ปลูกมันฝรั่งมีขนาด 8,322 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 22 ของพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมดในภาคเหนือ นอกจากนี้ยังมีเกษตรกรที่ปลูกมันฝรั่งจำนวน 1,618 ราย พื้นที่ปลูกที่สำคัญอยู่ใน 3 อำเภอ ได้แก่ แม่สาย เวียงป่าเป้า และเทิง
ปัจจุบัน เกษตรกรในจังหวัดเชียงรายได้เริ่มนำระบบน้ำหยดมาใช้ในกระบวนการผลิตมันฝรั่งในพื้นที่กว่า 1,828 ไร่ นายธวัชชัย เดชาเชษฐ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1 เชียงใหม่ (สศท.1) ได้เปิดเผยเกี่ยวกับผลการศึกษาประสิทธิภาพทางเทคนิคและการเปลี่ยนแปลงในการผลิตมันฝรั่งโดยใช้ระบบน้ำหยด ซึ่งมีวัตถุประสงค์เปรียบเทียบต้นทุนและผลตอบแทนของเกษตรกรที่ใช้ระบบน้ำหยดในการปลูกมันฝรั่ง และเปรียบเทียบกับเกษตรกรที่ไม่ใช้ระบบน้ำหยด
"เกษตรกรเลือกปลูกพันธุ์โรงงาน เพื่อประกันราคาและผลตอบแทนที่ดีกว่า"
เชียงราย - ผลการศึกษาพบว่าเกษตรกรในภาคเหนือมีแนวโน้มที่จะเลือกปลูกพันธุ์มันฝรั่งจากโรงงาน เนื่องจากมีการรับประกันราคาซื้อผลผลิตกับบริษัทเอกชน ซึ่งทำให้เกษตรกรทราบราคาขายล่วงหน้าก่อนการเพาะปลูก และการเก็บเกี่ยวผลผลิตจะทำได้เพียงครั้งเดียวในปี โดยจะเริ่มเพาะปลูกในช่วงเดือนธันวาคมและเก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน
เมื่อพิจารณาต้นทุนการผลิตและผลตอบแทนของเกษตรกรที่ใช้ระบบน้ำหยด พบว่าต้นทุนการผลิตเฉลี่ยต่อไร่อยู่ที่ 32,560.28 บาท ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่อยู่ที่ 3,809.14 กิโลกรัม และผลตอบแทนเฉลี่ยต่อไร่อยู่ที่ 42,405.01 บาท ซึ่งหักลบต้นทุนที่เกิดจะได้กำไรสุทธิต่อไร่อยู่ที่ 9,844.73 บาท
ในขณะเดียวกัน สำหรับเกษตรกรทั่วไปที่ไม่ใช้ระบบน้ำหยด พบว่าต้นทุนการผลิตเฉลี่ยต่อไร่อยู่ที่ 30,865.62 บาท ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่อยู่ที่ 2,937.68 กิโลกรัม และผลตอบแทนเฉลี่ยต่อไร่อยู่ที่ 32,755.13 บาท หักลบต้นทุนที่เกิดจะได้กำไรสุทธิต่อไร่อยู่ที่ 1,889.51 บาท
เมื่อพิจารณาราคาขายมันฝรั่งที่เกษตรกรได้รับในปี 2565 พบว่าอยู่ที่ 11.15 บาทต่อกิโลกรัมที่นาปี ผ่านการทำสัญญาประกันราคารับซื้อกับตัวแทนบริษัทเอกชน ผลการเปรียบเทียบแสดงให้เห็นว่าเกษตรกรที่ใช้ระบบน้ำหยด ถึงแม้จะมีต้นทุนสูงกว่าเฉลี่ยร้อยละ 5.20 แต่เมื่อดูความคุ้มค่าของผลตอบแทนที่ได้รับแล้ว พบว่าเกษตรกรที่ใช้ระบบน้ำหยดจะมีผลผลิตต่อไร่สูงกว่าเกษตรกรทั่วไปถึงร้อยละ 22.75 และมีกำไรสุทธิต่อไร่สูงกว่าร้อยละ 80.81 นอกจากนี้การใช้ระบบน้ำหยดในการปลูกมันฝรั่งยังช่วยลดการใช้แรงงานในการให้น้ำและการใช้สารเคมีและฮอร์โมน รวมถึงช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านสารเคมีและฮอร์โมน การให้น้ำผ่านระบบน้ำหยดยังช่วยลดปัญหาน้ำท่วมในแปลงมันฝรั่ง อีกทั้งยังเพิ่มอัตราการงอกของต้นมันฝรั่งและช่วยเพิ่มผลผลิตต่อไร่ นักวิจัยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1 ในเชียงใหม่ได้กล่าวเช่นนี้ใน