เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2566 นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่ากรุงเทพมหานครได้ประกาศความคืบหน้าในการจัดเก็บค่าบำบัดน้ำเสียว่า ในเดือนกรกฎาคมนี้ กรุงเทพมหานครกำลังเตรียมลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับการประปานครหลวง (กปน.) เพื่อนำข้อมูลผู้ใช้น้ำจาก กปน. ไปคำนวณค่าจัดเก็บค่าบำบัดน้ำเสีย กรุงเทพมหานครจะต้องขออนุญาตจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อรับรองว่า กรุงเทพมหานครจะรักษาข้อมูลของผู้ใช้น้ำที่ กปน. เปิดเผยให้ หลังจากลงนามร่วมกับ กปน. เรียบร้อยแล้ว นายวิศณุ ทรัพย์สมพล ผู้ว่ากรุงเทพมหานครจึงจะลงนามประกาศกรุงเทพมหานคร เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเริ่มจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย
โดยกรุงเทพมหานครจะคิดค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียจากปริมาณน้ำเสียที่เท่ากับ 80% ของปริมาณการใช้น้ำประปา โดยคูณด้วยอัตราค่าธรรมเนียมตามประเภทของแหล่งกำเนิดน้ำเสีย ส่วนวิธีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย กรุงเทพมหานครจะส่งใบแจ้งชำระค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียผ่านทางไปรษณีย์ ผู้รับบริการสามารถชำระค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียที่จุดบริการรับชำระเงินของกรุงเทพมหานคร ที่สำนักงานเขต 50 เขต ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง จุดบริการรับชำระเงินของธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ บริการธนาคารผ่านอินเตอร์เน็ต (Internet Banking) บริการธนาคารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Banking) และเครื่องรับจ่ายเงินอัตโนมัติ (ATM)
อย่างไรก็ตาม หากผู้รับบริการไม่ชำระค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย กรุงเทพมหานครจะทำหนังสือแจ้งให้ผู้รับบริการไปชำระค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือดังกล่าว หากเกินระยะเวลาที่กำหนดไว้ในหนังสือ การให้บริการบำบัดน้ำเสียจะถูกระงับชั่วคราวจนกว่าผู้รับบริการจะชำระค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียค้างชำระ หากยังไม่ชำระค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียอีก จะดำเนินการฟ้องคดีทางแพ่ง
อัลบั้มภาพ
