กรรมการผู้จัดการวิโรจน์ เจริญตรากล่าวว่า โครงการทั้งหมดเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ในเขตกรุงเทพฯ ชั้นนอก เนื่องจากความต้องการยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี
โครงการเหล่านี้ได้รับการวางแผนในปี 2561 เป็นคอนโด 8 ชั้น มูลค่า 800 ล้านบาท และคอนโด High Rise มูลค่า 2 พันล้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 26 และ 24 ทั้งสองแห่งนี้ได้รับการอนุมัติรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและใบอนุญาตก่อสร้าง แต่ถูกระงับเนื่องจากคอนโดล้นตลาด เมื่อปีที่แล้ว บริษัทได้เปลี่ยนไปสู่การพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบ ด้วยการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว Pannana มูลค่า 1.25 พันล้านบาทในย่านพุทธมณฑลสาย 3 มียอดขาย 500 ล้านบาท คาดว่าจะปิดการขายได้ภายในปีนี้ นับเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกของบริษัท นับตั้งแต่มีการขายกิจการ บริษัทย่อยด้านการพัฒนา Builtland ในปี 2560 และจัดตั้งโครงการใหม่ชื่อ Is Am Are ในปีเดียวกัน ด้วยทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท
นายวิโรจน์กล่าวว่า Is Am Are เปลี่ยนชื่อเป็น Pre-Built Development ในเดือนมกราคม 2564 เพื่อตอกย้ำแบรนด์ Pre-Built บริษัทคาดว่าจะลงทุนประมาณ 1-2 พันล้านบาทต่อปีในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยการเปิดตัวโครงการปีละ 3-4 โครงการ เนื่องจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สร้างอัตรากำไรสุทธิสูงกว่าธุรกิจก่อสร้าง 12% เทียบกับ 5-6%
