วิกฤตการณ์รัสเซีย-ยูเครน จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทั่วโลก เนื่องจากราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้น แต่ผลกระทบดังกล่าวจะบรรเทาลงได้บ้าง จากการผลักดันของจีน ให้มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ นักวิเคราะห์ของ Citigroup กล่าว ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และตลาดมีความผันผวนอย่างมากนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อเดือนที่แล้ว นาธาน ชีต นักวิเคราะห์ของ Citigroup เขียนในหมายเหตุว่า หากความตึงเครียดยืดเยื้อหรือทวีความรุนแรงมากขึ้น การลดราคาของแนวโน้มการเติบโตในปีนี้อาจต้องคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ การสูญเสียการเติบโตของจีดีพีจะถูกจำกัด ไว้ที่หลายสิบของจุดเปอร์เซ็นต์โดยมีผลรุนแรงในยุโรป ชีตกล่าวเสริม
จีนเน้นย้ำถึงเสถียรภาพทางเศรษฐกิจเป็นลำดับความสำคัญสูงสุด เนื่องจากเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจประมาณ 5.5 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ ซิตี้กรุ๊ปเชื่อว่าระดับนี้จะมีความแข็งแกร่งในทุกตัวชี้วัด แม้ว่าจะช้าเมื่อเทียบกับระดับก่อนเกิดโรคระบาด การขยายตัวที่เพิ่มขึ้นในตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย พร้อมกับตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ก็เป็นปัจจัยที่จะสนับสนุนการเติบโตทั่วโลกด้วยเช่นกัน
