เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มาร์โค คาวาเลอรี หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ภัยคุกคามสุขภาพเชิงชีวภาพและวัคซีนขององค์การยาแห่งยุโรป (EMA) ได้ออกมาเปิดเผยถึงกรณีการฉีดวัคซีนกระตุ้นในเข็มที่ 2 หรือ 4 ว่า ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานที่เพียงพอเพื่อที่จะแนะนำให้การมีการฉีดป้องกันโควิดสายพันธุ์ใหม่ในโดสกระตุ้นที่สอง แต่ทว่าก็ยังเน้นย้ำในเรื่องของการเดินหน้าโครงการฉีดวัคซีนต่อไป ซึ่งจะครอบคลุมถึงโดสที่กระตุ้นโดสแรกเพื่อป้องกันเชื้อในระดับสูง
อีกทั้ง เขายังกำชับในเรื่องของการอุบัติขึ้นมาของเชื้อโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 ที่กำลังแพร่ระบาดในหลายประเทศด้วยว่า ยังเป็นการเร็วเกินไปที่จะบอกถึงระดับความแตกต่างของเชื้อสายพันธุ์ BA.2 จากเชื้อโอไมครอนสายพันธุ์ย่อยอื่น ๆ ในแง่เรื่องของการแพร่กระจาย และการหลีกเลี่ยงภูมิคุ้มกัน แต่ทั้งนี้เชื้อโอไมครอนสายพันธุ์ย่อยชนิดนี้ ก็ยังคงเป็นเชื้อโควิดที่มีความเกี่ยวข้องกับโอไมครอนอย่างใกล้ชิด
ในช่วงก่อนหน้านี้ องค์การยายุโรปเองก็มีข้อสงสัยเกี่ยวกับความจำเป็นในเรื่องการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 4 ด้วย เพื่อที่จะป้องกันโควิดสายพันธุ์โอไมครอน โดยทางองค์การยาแห่งยุโรปชี้ว่า ยังไม่มีข้อมูลที้เพียงพอที่จะมาสนับสนุนในเรื่องการฉีดวัคซีนบูสเตอร์เข็ม 4 อีกทั้ง นายคาวาเลอรี เจ้าหน้าที่ระดับสูงองค์การยาแห่งยุโรป ยังได้แสดงความกังวลถึงเรื่องการฉีดวัคซีนบูสเตอร์ที่เป็นการกระตุ้นที่ถี่เกินไปว่า จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมนุษย์นั้นทำงานหนักเกินไปหรือไม่ และอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้ประชาชนเหนื่อยล้ากับการที่จะต้องฉีดวัคซีนด้วย
