ค่าพลังงานที่หมุนวนและการหยุดชะงัก ที่เกิดจากสงครามในยูเครนทำให้ราคาผู้บริโภคในยูโรโซนพุ่งขึ้น เป็นประวัติการณ์ใหม่ที่ร้อยละ 7.5 หน่วยงานสถิติของสหภาพยุโรป Eurostat กล่าว พบการเพิ่มขึ้นในเดือนที่แล้วเป็นอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นอีกจากเดือน ก.พ. ซึ่งอยู่ที่ 5.9% เมื่อเทียบเป็นรายปีซึ่งทำสถิติสูงสุดในยูโรโซนแล้ว การเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานในปีนี้พุ่งขึ้น 44.7% เนื่องจากยุโรปพบว่าตนเองต้องเผชิญกับวิกฤตน้ำมันและก๊าซ อันเนื่องมาจากความตึงเครียดกับรัสเซียเกี่ยวกับการรุกรานยูเครน คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เตือนเมื่อวันพุธว่า ความขัดแย้งในยูเครนที่ยืดเยื้อ จะทำให้ราคาพลังงานและค่าครองชีพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำลายการฟื้นตัวหลังโควิด-19 อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นแบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มุ่งมั่นที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นเวลานานเพื่อทำให้เศรษฐกิจเย็นลงและยับยั้งการขึ้นราคา แต่ ECB ไม่เต็มใจที่จะใช้มาตรการที่คล้ายกันในตอนนี้ โดยเชื่อว่าค่าครองชีพที่สูงขึ้นนั้นเชื่อมโยงกับสงคราม เช่นเดียวกับการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกที่เกิดจากการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด – 19
แต่เมื่อพิจารณาถึงอัตราเงินเฟ้อที่ไม่หยุดยั้ง นักวิเคราะห์กล่าวว่าอีกไม่นาน Lagarde จะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องคิดทบทวนนโยบายใหม่