ศาลรัฐธรรมนูญในกรุงโซล ยืนกรานคำสั่งห้ามการสัก ยืนยันว่าเกาหลีใต้เป็นประเทศพัฒนาแล้วเพียงประเทศเดียวที่ไม่อนุญาตให้ผู้ใดสัก นอกจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าว แม้จะมีการสั่งห้ามมานานหลายทศวรรษ แต่เกาหลีใต้ก็มีช่างสักเกือบ 50,000 คน ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกตำรวจบุกโจมตีและดำเนินคดี การละเมิดคำสั่งห้ามมีโทษปรับสูงสุด 50 ล้านวอน (41,300 ดอลลาร์สหรัฐ) และโทษจำคุก โดยปกติแล้ว 2 ปี สมาคมผู้สักได้ริเริ่มการดำเนินการในศาลหลายครั้งตั้งแต่ปี 2017 ที่ท้าทายกฎหมาย โดยกล่าวว่าการกระทำดังกล่าวละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิในการประกอบอาชีพ ในการลงคะแนนเสียง 5-4 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเมื่อวันพฤหัสบดีว่ากฎหมายเป็นรัฐธรรมนูญ พร้อมทั้งกล่าวว่าการสักทำให้เกิดผลข้างเคียงและปัญหาด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น สหภาพช่างสัก 650 คนออกแถลงการณ์ประณามการตัดสินใจ โดยเรียกการตัดสินใจดังกล่าวว่า “ถอยหลังเข้าคลอง”
คิม โช-ยุน รองประธานสหพันธ์สักแห่งเกาหลี ก็วิพากษ์วิจารณ์คำตัดสินล่าสุดเช่นกัน โดยกล่าวว่ากฎหมายปัจจุบันนั้น “ไร้สาระ” โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากตลาดการสักที่เติบโตขึ้นของประเทศ และสถานะระดับโลกที่เพิ่มสูงขึ้น
