สถานการณ์ระหว่างยูเครน และรัสเซีย เริ่มที่จะลุกลามบานปลายมากขึ้น หลังจากที่กองทัพของรัสเซียได้เริ่มพุ่งเป้าไปที่การโจมตีพลเรือนมากขึ้น โดยเฉพาะการโจมตีโรงพยาบาลต่าง ๆ ที่มีคนไข้เป็นจำนวนมาก โดยหลังจากที่มีรายงานว่ารัสเซียได้นำเครื่องบินรบมาทิ้งระเบิดถล่มโรงพยาบาลแม่และเด็กในเมืองมาริอูโปล ส่งผลให้มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ไปถึง 17 ราย
ทางด้านของ นายกเทศมนตรีของเมืองซีโตเมียร์ ก็ได้มีการเผยแพร่ภาพของเครื่องบินรบที่มาทิ้งระเบิดใส่โรงพยาบาลในเมืองซีโตเมียร์อีก 2 แห่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็เป็นโรงพยาบาลเด็กด้วย แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้มีรายงานเกี่ยวกับจำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตที่แน่ชัดจากทางทั้งสองจุดเกิดเหตุ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ผู้นำยูเครนอย่าง นายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ก็ได้ออกมาแถลงประณามการโจมตีโรงพยาบาลในเมืองมาริอูโปลของรัสเซียว่า สิ่งนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ชั่วร้ายมาก ๆ อีกทั้งยังเป็นหลักฐานที่ชี้ได้ว่า รัสเซียได้พยายามที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของชาวยูเครน ซึ่งโรงพยาบาลที่ถูกโจมตีก็ได้รับความเสียหายไปเป็นอย่างมาก ทำให้ต้องเร่งในการอพยพคนไข้ หญิงท้องแก่ และผู้หญิงที่ได้รับบาดเจ็บหนักด้วย
นอกจากนี้จากการโจมตีดังกล่าว ก็พบว่ามีเด็กจำนวนมากที่ติดอยู่ใต้ซากของอาคาร พร้อมกันนี้ก็ได้เรียกร้องไปยังชาติยุโรปให้ตระหนักถึงความเลวร้ายที่เกิดขึ้นนี้ และจะเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียให้มากขึ้นไปอีก เพื่อที่จะเป็นการกดดันให้รัสเซียยอมนั่งเจรจา ที่จะทำให้ความพยายามที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นี้จบสิ้นไปสักที