เมื่อวันที่ 24 มกราคม กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกคำสั่งอนุญาตให้ครอบครัวของเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่ไม่จำเป็นของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน ต้องเดินทางกลับประเทศ พร้อมกับมีการแจ้งเตือนให้พลเมืองชาวสหรัฐฯ ทุกคนควรที่จะพิจารณาในการเดินทางไปยังยูเครนและรัสเซียในช่วงนี้ เนื่องจากตอนนี้สถานการณ์ในภูมิภาคนี้นับว่ายิ่งทวีความตึงเครียดเพิ่มมากขึ้น
จากการแถลงของกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งว่า มีการรายงานมาจากหลายแห่งที่ระบุว่า รัสเซียกำลังที่จะมีแผนการทางทหารที่สำคัญต่อยูเครน อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังคงเน้นย้ำว่า สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงเคียฟ ก็ยังคงเปิดทำการตามปกติอยู่ และได้แจ้งว่าคำประกาศนี้ไม่ใช่การอพยพเจ้าหน้าที่ประจำสถานทูตออกมาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างรัสเซียกับยูเครนก็ได้ทวีความตึงเครียดมากขึ้น ทางด้านของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ก็ได้ส่งกำลังทหารไปยังแนวชายแดนของยูเครนนับแสนนาย ซึ่งทำให้ทางสหรัฐฯ และชาติตะวันตกก็ได้ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ รวมทั้งกระสุนปืน มาเสริมกำลังให้แก่กองทัพยูเครนอีกด้วย