เมื่อวันที่ 5 ก.ค. เกิดฟ้าแลบ ส่งผลให้ทีมงานต้องหยุดการค้นหาเหยื่อเหตุการณ์อาคารถล่มที่เซิร์ฟไซด์เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน และพื้นที่โรงรถในซากปรักหักพังเต็มไปด้วยน้ำ การคาดการณ์ล่าสุดแสดงให้เห็นว่าพายุโซนร้อนเอลซาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตก
แต่บริเวณใกล้อาคารที่ถล่มนั้นประสบกับพายุฝนฟ้าคะนอง และคาดว่าจะมีสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน ดาเนียลลา เลวีน คาวา นายกเทศมนตรีเมืองไมอามี-เดด เคาน์ตี้ เปิดเผยว่า ลูกเรือกู้ภัยต้องผิดหวังจากความล่าช้า “จริง ๆ แล้วพวกเขามีชีวิตอยู่เพื่อช่วยชีวิต และพวกเขาได้ก้าวไปข้างหน้า ไม่ว่าจะมีอะไรมาขวางทางพวกเขา” เธอกล่าวในการแถลงข่าว ถึงกระนั้น ทีมงานก็ได้รับแรงหนุนอย่างมากเมื่อส่วนที่ไม่เสถียรของอาคารทางตอนใต้พังลงมา การรื้อถอนซึ่งเกิดจากความกลัวว่าโครงสร้างอาจตกลงมา ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถเข้าไปในสถานที่ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่สามารถเข้าถึงได้ รวมถึงห้องนอนที่เชื่อว่าผู้คนนอนหลับอยู่ในช่วงเวลาที่เกิดภัยพิบัติ
เจ้าหน้าที่กู้ภัยหวังว่าจะได้ภาพที่ชัดเจนขึ้นจากช่องว่างที่อาจมีอยู่ในส่วนซากปรักหักพัง ขณะที่พวกเขาค้นหาใครก็ตามที่ยังคงติดอยู่ใต้ปีกของอาคารที่ถล่มลงมา แต่พวกเขาพบช่องว่างน้อยมาก ทำให้การค้นหาและการช่วยเหลือยากขึ้นไปอีก