ทางการศรีลังกาประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศ และส่งกองทัพเข้าประจำการ หลังจากประชาชนหลายสิบคนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เมื่อผู้สนับสนุนรัฐบาลถืออาวุธเช่น ท่อนไม้ หรือ วัตถุของแข็ง โจมตีผู้ประท้วง เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำศรีลังกาประณามความรุนแรงต่อผู้ประท้วงอย่างสันติในวันนี้ และเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการสอบสวนอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงการจับกุมและดำเนินคดีกับผู้ที่ยุยงให้เกิดความรุนแรง
ชาวศรีลังกาประสบภาวะไฟฟ้าดับนานหลายเดือนและการขาดแคลนอาหาร เชื้อเพลิง และยารักษาโรค ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดของเกาะนับตั้งแต่ได้รับเอกราช ก่อให้เกิดการประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างสันติหลายสัปดาห์ แต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา การปะทะกันครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เริ่มต้นวิกฤตในโคลัมโบ เมื่อผู้สนับสนุนครอบครัวของประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา และน้องชาย มหินดา นายกรัฐมนตรี ได้อาละวาด ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีในที่เกิดเหตุกล่าว
โฆษกของเขากล่าวว่านายกรัฐมนตรีมหินดาราชปักษาลาออกในเวลาต่อมาเมื่อวันจันทร์ โรฮาน เวลิวิตา โฆษกหญิงวัย 76 ปีรายนี้ส่งจดหมายลาออกถึงน้องชายประธานาธิบดีโคตาบายา ราชปักษา น้องชายของเขา เพื่อปูทางสู่รัฐบาลสามัคคีใหม่
ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำ และประกาศเคอร์ฟิวในทันทีที่โคลัมโบ ซึ่งต่อมาขยายให้ครอบคลุมทั้งประเทศที่เป็นเกาะในเอเชียใต้ซึ่งมีประชากร 22 ล้านคน
