สหภาพยุโรปได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ 8 คนจากกองทัพเมียนมาร์ และเพิ่มรายชื่อของบริษัทอีก 3 แห่งที่เชื่อมโยงกับกองทัพพม่า เข้าสู่บัญชีดำเป็นการคว่ำบาตรต่อรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ และเป็นการแสดงความไม่เห็นด้วยที่มีการปราบปรามการประท้วงจนทำให้ประชาชนนองเลือด โดยผู้ที่ตกเป็นเป้าหมายของการอายัดทรัพย์สินและการห้ามออก VISA นั้น รวมถึงรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย, รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคง, รัฐมนตรีกระทรวงการเงิน, รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และรัฐมนตรีกระทรวงการขนส่ง นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มองค์กรทหารผ่านศึกเมียนมาร์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นกองกำลังสำรองของกองทัพ อยู่ในบัญชีดำอีกด้วย ทางด้านสหรัฐฯ และอังกฤษยังคงตั้งเป้าหมายในการจับตามองไปที่เจ้าหน้าที่และองค์กรสำคัญ ๆ ในประเทศ แต่จนถึงตอนนี้รัฐบาลทหารแห่งพม่าไม่สนใจแรงกดดันจากตะวันตกเลย
ทางลอนดอนก็ออกมาประกาศคว่ำบาตรเช่นเดียวกัน
ณ ตอนนี้สหภาพยุโรปกำลังมองหาวิธีที่สร้างสรรค์ในการหยุดรายได้จากน้ำมันและก๊าซที่เข้าถึงกองทัพ มีการระบุและตัดแหล่งที่มาของรายได้ให้กับกองทัพอย่างเป็นระบบเป็นสิ่งสำคัญ