น้ำมันของสหรัฐอยู่ภายใต้แรงกดดัน ในการค้าขายในเอเชียหลังจากพบข่าวไม่สู้ดี ตกต่ำในชั่วข้ามคืน ทางสหรัฐฯ ได้ขอให้ผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่เช่นจีน และญี่ปุ่น พิจารณาการประสานงานของปริมาณสำรองน้ำมันเพื่อลดราคา โดยข้อเสนอของรัฐบาลสหรัฐฯ พบแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากแรงหนุนจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น อันก่อให้เกิดความขัดแย้งทางการเมือง ในขณะที่โลกกำลังมีการฟื้นตัวอย่างเหมาะสม จากวิกฤตสุขภาพที่เลวร้ายที่สุดในรอบศตวรรษ
ราคาน้ำมันดิบสหรัฐร่วงลง 6 เซนต์ ปิดที่ 78.30 ดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วงลง 3% ในชั่วข้ามคืน น้ำมันดิบเบรนต์ร่วงลง 2.6% สู่ระดับต่ำสุด นับตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมและยังไม่มีการค้าในเอเชีย ราคาพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี มื่อเดือนที่แล้ว เนื่องจากตลาดมุ่งเน้นไปที่อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งมาพร้อมกับการยกเลิกการล็อกดาวน์ และเศรษฐกิจฟื้นตัวจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ จากองค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC)
สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ ได้กล่าวในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า จะมีอุปทานเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า OPEC+ ยังคงรักษาข้อตกลงในการเพิ่มผลผลิต 400,000 บาร์เรลต่อวันทุกเดือน เพื่อไม่ให้อุปทานล้นตลาด