นักวิทยาศาสตร์แสวงหางานวิจัยอย่างไม่หยุดยั้ง หัวใจของการดูแลมะเร็งแบบองค์รวม

จากความก้าวหน้าในการบำบัดด้วยภูมิคุ้มกัน, การบำบัดแบบกำหนดเป้าหมาย, ยาโมโนโคลนอลแอนติบอดี และเคมีบำบัด ช่วยเพิ่มทางเลือกในการรักษาให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็ง ณ ขณะนี้แต่ ดร.อังเผิง เตียม สังเกตเห็นการพัฒนาของยาตัวใหม่ ที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเซลล์มะเร็งมากกว่า และมีผลข้างเคียงน้อยกว่าเดิม ดร.อ่าง ยังชี้ให้เห็นอีกว่า “การทำเคมีบำบัดไม่ได้ล้าสมัย แต่สามารถใช้เทคนิคใหม่ ๆ ร่วมกับโมโนโคลนอลแอนติบอดี หรือภูมิคุ้มกันบำบัด เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีขึ้น” อีกทั้งยังมีการตั้งข้อสังเกตอีกด้วยว่า ผลข้างเคียงจากการบำบัดด้วยภูมิคุ้มกันนั้น สามารถทนได้ดีกว่ามาก   ด้วยการรักษาที่ใหม่กว่าซึ่งมีพิษน้อยกว่า ผู้เชี่ยวชาญได้สังเกตเห็นว่าผู้ป่วยมีความเต็มใจที่จะปฏิบัติตามระบบการรักษาของตนเองมากขึ้น มีการวางระบบควบคู่ไปกับการบำบัดด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด ซึ่งเป็นการรักษาอีกวิธีหนึ่งที่ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้องอกวิทยาสามารถจัดการ นั่นก็คือการบำบัดแบบกำหนดเป้าหมาย

ดร.อัง เป็นผู้อำนวยการด้านการแพทย์และที่ปรึกษาอาวุโสด้านเนื้องอกวิทยาทางการแพทย์ ที่ศูนย์มะเร็ง Parkway Cancer Center อธิบาย สิ่งนี้คือการรักษามะเร็งที่ใช้ยาที่กำหนดเป้าหมายยีนและโปรตีนเฉพาะ ที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตและการอยู่รอดของเซลล์มะเร็ง