นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศสอิตาลี และนอร์เวย์ 8 คน ภายใต้การทำงานในทีมชื่อ “ไอซ์เมโมรี ฟาวน์เดชัน” (Ice Memory Foundation) ที่ตั้งค่ายพักแรมในหมู่เกาะสวาลบาร์ดของนอร์เวย์ ทางเหนือสุดของทวีปอาร์กติก เพื่อรักษาก้อนน้ำแข็ง อาร์กติกโบราณที่สำคัญการต่อการศึกษาประวัติศาสตร์ภูมิอากาศโลกและการทำแผนภูมิผลกระทบร้ายแรงจากมนุษย์
นักวิทยาศาสตร์ได้ผ่าเอาน้ำแข็งทั้งหมด 3 ท่อน ความยาว 50 ถึง 70 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 10 เซนติเมตร จากธารน้ำแข็งขนาดมหึมาบนเกาะสวาลบาร์ด ซึ่งการปฏิบัติงานครั้งนี้ยากต่อการทำงานเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้องพยายามที่จะรักษาหลักฐานโบราณที่อยู่ในน้ำแข็งชิ้นนี้ให้ได้มากที่สุด เนื่องจากอุณหภูมิของโลกก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ รวมทั้งลมที่พัดแรง
จากอุณหภูมิตอนแรกคาดว่าจะอยู่ที่ -25 องศา และแรงลมนั้นทำให้อุณหภูมิลดลงถึง 40 องศาเซลเซียส ทำให้ธารน้ำแข็งนั้นละลายลงอย่างเร็วและไหลลงมาสู่น้ำแข็งโบราณ ซึ่งเป็นหลักฐานทางธรณีเคมีสิ่งเดียวที่ยังคงมีอยู่ ซึ่งทำให้การขุดนั้นเป็นไปอย่างล่าช้าหลายวัน และแกนน้ำแข็งที่นักวิทยาศาสตร์เหล่านี้ได้มานั้นมีหินและฟองอากาศอยู่ภายใน ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้อาจจะไขความกระจ่างทางประวัติศาสตร์ภูมิอากาศของโลก และสามารถย้อนกลับไปได้ถึง 300 ปีที่แล้ว