คำแนะนำด้านการบริหาร ซึ่งต้องรายงานจาก Line ภายในปลายเดือนพฤษภาคมเนื่องจากกระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารได้ตัดสินว่า ผู้ให้บริการแอปฯ ไม่สามารถจัดหาระบบเฝ้าระวังที่เพียงพอเพื่อปกป้อง "ความลับของการสื่อสาร" ตามที่กฎหมายกำหนด
Line กล่าวในแถลงการณ์ว่า ให้ปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลอย่างจริงจังและสาบานว่าจะฟื้นความไว้วางใจของผู้ใช้โดยการดำเนินการปฏิรูปที่เหมาะสม ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก Line ซึ่งใช้งานโดยกว่า 86 ล้านคนในญี่ปุ่นพบว่าข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้โดยช่างเทคนิคของบริษัทในเครือของจีน ภาพถ่ายและภาพวิดีโอที่โพสต์โดยผู้ใช้บนแพลตฟอร์มออนไลน์ยังถูกเก็บไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ในเกาหลีใต้ กระทรวงการสื่อสารยังกล่าวอีกว่าช่างเทคนิค 4 คนในบริษัทในเครือของจีนเข้าถึงฐานข้อมูลของผู้ให้บริการแอปฯ 132 ครั้ง ซึ่งมากกว่าที่ Line ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของรัฐบาลได้ออกคำแนะนำในการดูแลระบบแยกต่างหาก และขอให้ Line รายงานมาตรการปรับปรุงภายในหนึ่งเดือนเพื่อให้มีระบบเฝ้าระวังที่เพียงพอ แม้ว่าจะไม่มีการละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างชัดเจน
ในแนวทางการปกป้องข้อมูล Line ได้กล่าวว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าสามารถส่งไปต่างประเทศได้ แต่ไม่ได้ระบุชื่อประเทศใด ๆ แม้ว่าจะถูกกำหนดให้ทำภายใต้การเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายเมื่อปีที่แล้ว แอปฯ Line ยังได้รับความนิยมในฐานะเครื่องมือสื่อสารทางสังคมที่สำคัญในไต้หวัน ไทย และอินโดนีเซีย นับตั้งแต่เปิดให้บริการในเดือนมิถุนายน 2554
