เมื่อวันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา ชาวเปรูออกมาประท้วงเพื่อเรียกร้องให้ เร็ปโซล บริษัทของสเปน ที่เป็นเจ้าของโรงกลั่นน้ำมันยักษ์ใหญ่ ลาแปมปิลลา จะต้องทำการชดใช้ค่าเสียหายอันใหญ่หลวงที่นับว่าเป็นประวัติการณ์ของสิ่งที่เกิดขึ้นกับระบบนิเวศทางทะเล หลังจากที่ได้มีการรั่วไหลของน้ำมันดิบออกมาจากโรงกลั่นลงสู่ทะเลประมาณ 6,000 บาร์เรล ซึ่งอยู่ในช่วงที่เกิดคลื่นยักษ์ซัดเข้าสู่ชายฝั่งเปรู หลังจากที่เกิดภูเขาไฟระเบิดในตองกา
สื่อท้องอถิ่นของเปรู รายงานว่า น้ำมันดิบปริมาณมหาศาลได้รั่วไหลลงสู่ชายฝั่งทะเลบริเวณเขตอนุรักษ์ 2 แห่ง โดยในบริเวณนั้นเป็นมีระบบนิเวศทางทะเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งคราบน้ำมันนั้นลอยอยู่บนผิวน้ำเป็นระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร สิ่งนี้เองส่งผลทำให้มีนกทะเล และสัตว์น้ำตายเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ทางโรงกลั่นน้ำมันสามารถผลิตน้ำมันได้กว่า 117,000 บาร์เรลต่อวัน แต่ทางโรงกลั่นน้ำมันกลับไปได้มีแผนสำรองหากว่าเกิดการรั่วไหลขึ้นของน้ำมันลงสู่ทะเล
ทางด้านของอาสาสมัครนักอนุรักษ์ และเคลื่อนไหวปกป้องสิ่งแวดล้อม นับร้อยคนได้ออกมาช่วยกันขจัดคราบน้ำมันที่อยู่บริเวณชายฝั่ง อีกทั้งยังช่วยเหลือนกทะเลจำนวนมากที่นอนตายเกลื่อนอยู่บนชายหาดที่มีคราบน้ำมัน ส่วนทางด้านของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของเปรู ก็ได้ออกมาทวีตข้อความส่วนตัวว่า การรั่วไหลของน้ำมันลงสู่ทะเลครั้งนี้ ส่งผลกระทบมาก ๆ กับครอบครัวชาวประมงหลายร้อยครอบครัว ซึ่งทางบริษัทดังกล่าวจะต้องชดใช้ค่าเสียหาย แต่อย่างไรก็ตามทางบริษัทก็ได้ออกมาปฏิเสธการรับผิดชอบ เพราะมองว่าเป็นความผิดของทางการเปรู ที่ไม่มีการประกาศแจ้งเตือนสึนามิ ทำให้เตรียมตัวไม่ทัน
