กว่า 100 ประเทศได้เข้าร่วมความพยายามในการเปลี่ยนแปลงโลก นำโดยสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปในการลดการปล่อยก๊าซมีเทนที่มีศักยภาพร้อยละ 30 ภายในปี 2030 จากระดับปี 2020 ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มที่มุ่งแก้ปัญหาหนึ่งในสาเหตุหลักของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมีเทนเป็นก๊าซเรือนกระจกหลักรองจากคาร์บอนไดออกไซด์ มีศักยภาพในการดักจับความร้อนสูงกว่า CO2 แต่จะสลายตัวในชั้นบรรยากาศได้เร็วกว่า ซึ่งหมายความว่าการลดการปล่อยก๊าซมีเทนจะส่งผลกระทบอย่างรวดเร็วในการลดภาวะโลกร้อน โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยว่า Global Methane Pledge ซึ่งเปิดตัวในการประชุมสุดยอด COP26 ในเมืองกลาสโกว์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากประกาศในเดือนกันยายน ปัจจุบันครอบคลุมประเทศต่าง ๆ ที่เป็นตัวแทนของการปล่อยก๊าซมีเทนทั่วโลกเกือบครึ่งหนึ่งและ 70% ของ GDP โลก มีความมุ่งมั่นที่จะลดก๊าซมีเทนลง 30 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2030
สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มเศรษฐกิจ, ประหยัดเงินของบริษัท, ลดการรั่วไหลของก๊าซมีเทน และสามารถดักจับก๊าซมีเทนเพื่อเปลี่ยนให้เป็นกระแสรายได้ใหม่ ตลอดจนสร้างงานสหภาพแรงงานที่มีรายได้ดีสำหรับคนงานต่อไป