แผนดังกล่าวรวมถึงการปรับปรุงกฎระเบียบเกี่ยวกับการเข้าเมือง การขอวีซ่าและใบอนุญาตทำงานสำหรับผู้เชี่ยวชาญชาวต่างชาติ รวมถึงการผ่อนปรนข้อกำหนดให้แรงงานต่างชาติรายงานที่อยู่ของตนต่อเจ้าหน้าที่ทุก ๆ 90 วัน
ขอบเขตของแผนการนี้จะรวมถึงการจูงใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติ เช่น การลดภาษีเงินได้นิติบุคคล กฎการถือครองทรัพย์สินที่และสิ่งจูงใจสำหรับผู้เกษียณอายุ และบริษัทที่เพิ่งเริ่มต้น ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ และอดีตหัวหน้า บล. เจพีมอร์แกน (ประเทศไทย) กล่าวว่า เขาตั้งเป้าหมายที่จะดึงดูดผู้เกษียณอายุหรือผู้รับบำนาญจำนวน 1 ล้านคนเข้ามาในประเทศไทยในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งเขาอ้างว่าสามารถบริจาคได้มากถึง 1.2 ล้านล้านบาทต่อเศรษฐกิจในแต่ละปี ประเทศไทยได้เห็นการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศลดลงกว่าครึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เหลือประมาณ 361 พันล้านบาทในปี 2563 เนื่องจากนักลงทุนถูกขัดขวางจากปัจจัยต่าง ๆ รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองเป็นระยะ โอกาสในการเติบโตที่ต่ำเนื่องจากสังคมสูงวัยและปัญหาการขาดแคลนแรงงาน
นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยลดลงเหลือ 6.7 ล้านคนในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบอย่างน้อย 12 ปีหลังจากที่ประเทศปิดพรมแดนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค การท่องเที่ยวมีส่วนสนับสนุนเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ถึง 3 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 18 ของ GDP ของประเทศ รัฐบาลไทยตั้งเป้ารายได้ 348 พันล้านบาทจากการท่องเที่ยวต่างประเทศในปีนี้
