ตลาดหุ้นไทยคึกคักตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญไฟเขียวร่างกฎหมายเลือกตั้งใหม่ที่มีแนวโน้มเอื้อประโยชน์แก่พรรคใหญ่ นักวิเคราะห์หุ้นมองว่าการผ่านกฎหมายเลือกตั้งเป็นการปูทางไปสู่การเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า และการจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ รัฐบาลที่ประกอบด้วยพรรคใหญ่เพียงพรรคเดียว หรือบางพรรคถือว่ามีเสถียรภาพมากกว่ารัฐบาลที่มาจากพรรคเล็กหลายพรรค
ตลาดหุ้นเป็นตัวบ่งชี้ชั้นนำเนื่องจากเคลื่อนไหวเร็วกว่าเศรษฐกิจ ในขณะที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก เพราะไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าพันธมิตรประชาธิปไตยจะชนะ พรรคอนุรักษ์นิยมซึ่งมีทหารหนุนหลังอยู่หรือไม่ ผู้สังเกตการณ์เชื่อว่าพรรคการเมืองและนักการเมืองจะใช้จ่ายมากขึ้นในช่วงหาเสียงเลือกตั้งในต้นปีหน้า ซึ่งนำไปสู่การเลือกตั้งที่คาดว่าจะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคม
พรรคการเมืองทุ่มงบหาเสียงเลือกตั้งได้ถึง 4 หมื่นล้านบาท ผลกระทบแบบทวีคูณสามารถสร้างงานและการผลิตสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องมูลค่าสูงถึง 70 - 80,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตของ GDP เพิ่มขึ้น 0.4 – 0.6 เปอร์เซ็นต์ ธนวรรธน์ พลวิชัย นักเศรษฐศาสตร์และอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พาณิชย์(UTCC)กล่าวว่า
หลังจากเอือมระอากับการที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กุมบังเหียนอำนาจมานานถึง 8 ปี ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมากมีความหวังสูงว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ต่อการกำหนดนโยบายและแนวทางการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลไทย