“ในขณะที่พวกเขาขึ้นเรือเพื่อข้ามไปอีกฝั่งก็ได้รับข้อความว่าเครื่องบินรบกำลังมาอีกครั้ง” นา วา คู ชี ผู้อำนวยการเครือข่ายสนับสนุนสันติภาพกะเหรี่ยง ซึ่งเป็นกลุ่มพลเรือนในพื้นที่ชายแดนทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมียนมาร์บอกกับสำนักข่าว
“พวกเขารู้สึกกลัว เราไม่รู้ว่าจะมีการโจมตีอีกหรือไม่ เนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น พวกเขาจึงเริ่มขุดหลุมหลบภัย” ในขณะที่การสังหารโหดเกิดขึ้นในการปราบปรามขบวนการต่อต้านประชาธิปไตยของกองทัพเมียนมาร์ โดยมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 500 คน ความโกลาหลในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ประเทศกำลังขู่ว่าจะเข้าสู่สงครามกลางเมือง องค์กรติดอาวุธชาติพันธุ์ 3 แห่งของเมียนมาร์ ซึ่งควบคุมพื้นที่ขนาดใหญ่ของประเทศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาเปิดเผยว่าจะต่อสู้เคียงข้างประชาชนหากรัฐบาลทหารยังคงโจมตีผู้ประท้วง
มีการปะทะกันใกล้ชายแดนไทยระหว่างหนึ่งในกองกำลังติดอาวุธชนกลุ่มน้อยที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงและกองทัพ ซึ่งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เริ่มการโจมตีทางอากาศครั้งแรกในรอบ 25 ปี โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย การโจมตีทางอากาศชักนำให้ผู้คนระหว่าง 2,000 ถึง 3,000 คนจากค่ายผู้ลี้ภัยที่ชายแดนฝั่งเมียนมาร์เพื่อข้ามแม่น้ำสาละวินและขอลี้ภัยในจังหวัดแม่ฮ่องสอนของไทย