เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งเป็นอดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติที่ถูกยุบกล่าวว่า “บุคคลทั้งสามนี้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่สำคัญ ดังนั้น ป.ป.ช. ควรตรวจสอบว่าได้แถลงทุกอย่างถูกต้องหรือไม่”
เขาบอกว่า พล. อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล. อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีไม่สามารถบอกที่มาของทรัพย์สินของเขาได้ เขายังกล่าวอีกว่านายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านล้มเหลวในการเปิดเผยที่มาของนาฬิกาและสร้อยคอที่เขาสวมใส่ รวมทั้งรูปปั้นพระพุทธรูปในห้องทำงานของเขา ตามหลักเกณฑ์ของ ป.ป.ช. ต้องมีการสำแดงทรัพย์สินที่มีมูลค่ารวมกันเกิน 200,000 บาท แต่เรืองไกรกล่าวว่าทั้งสามไม่ได้แสดงทรัพย์สินเหล่านั้น นายประวิทย์กล่าวกับสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2559 ว่า พล. อ. ประยุทธ์มีพระเครื่องประมาณ 100 องค์
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เรืองไกรได้โชว์ภาพของพล. อ. ประยุทธ์ที่แสดงให้สื่อมวลชนเห็นว่าเขาสวมใส่พระเครื่องหลายองค์ และบอกว่าเขาสวมมานานแล้ว แต่ไม่รู้ว่ามีกี่องค์ เรืองไกรยังกล่าวอีกว่านายสมพงษ์ควรถูกตรวจสอบ เนื่องจากคลิปของสื่อต่าง ๆ ในระหว่างปี 2562-2563 ได้แสดงให้เห็นว่าเขาสวมนาฬิกา สร้อยคอ และพระพุทธรูปอยู่ในห้องทำงาน แต่เขาไม่ได้แจ้งสิ่งเหล่านี้ในการประกาศทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.
ประวิทย์ต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาก่อนหน้านี้ว่ามีการสำแดงทรัพย์สินอันเป็นเท็จต่อ ป.ป.ช. คณะกรรมาธิการในปี 2561 ได้ตัดสินว่าประวิทย์ไม่มีเจตนาที่จะละเว้นการแสดงทรัพย์สินนาฬิกาหรู 22 เรือนจากคำประกาศของเขาในปี 2557 ประวิทย์บอกกับ ป.ป.ช. ว่าเขายืมนาฬิกาเพื่อนสนิทมา ซึ่งตอนนี้เพื่อนคนนั้นเสียชีวิตแล้ว