นายภาณุวัฒน์ ขวัญยืน ผู้ซื้อหุ้นในบริษัทไอทีวีได้แถลงว่าเขาไม่ได้มีแผนที่จะล้มนางพิธา และไม่ได้เป็นผู้ให้สนับสนุนให้แก่ใครในการเล่นหุ้น แต่เขาเพียงแค่สนใจการลงทุนเล่นหุ้นเท่านั้น นายภาณุวัฒน์จึงขอเชิญสังคมให้ไม่คาดหวังเยอะเยี่ยงให้กับเขาในอนาคต เพราะอาจมีโอกาสที่เขาอาจจะขายหุ้นกลับให้แก่นายนิกม์ได้
ในวันที่ 12 มิถุนายน 2566 นายภาณุวัฒน์ ขวัญยืน ผู้ถือหุ้นไอทีวีต่อจากนายนิกม์ แสงศิรินาวิน ได้ออกมาเปิดเผยความคิดเป็นครั้งแรกกับไทยรัฐทีวี โดยกล่าวว่า เขาสนใจเรื่องหุ้นและอยากมาลงทุนในสายงานนี้ จึงได้ปรึกษาข้อมูลกับนายนิกม์ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่รู้จักกันตั้งแต่เรียนจบและกลับมาในประเทศไทย จากนั้นก็ได้มาพูดคุยและสอบถามเกี่ยวกับช่องทางการลงทุน นายนิกม์จึงแนะนำให้เขาลงทุนในหุ้นเนื่องจากมีความสนใจ ดังนั้นนายภาณุวัฒน์ก็ตัดสินใจรับซื้อหุ้นจากนายนิกม์ อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ได้เข้าร่วมประชุมหุ้นเลย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สังคมเกิดความสงสัย หุ้นไอทีวี ไม่ใช่ หุ้นที่ทำกำไรหรือมีรายได้ ทำไมถึงรับซื้อมา นายภาณุวัฒน์ ตอบว่า “บริษัทยังดำเนินกิจการ มีการปิดงบ ยืนยันว่า ไม่ได้เป็น “นอมินิ” ให้ใคร ซื้อหุ้นนี้ จากใจจริง ไม่ได้เตรียมกันแน่นอน” ส่วนตัวตอนนี้ รู้สึกกังวลเรื่องความปลอดภัย ไม่มีเจตนาจะไปทำร้ายหรือขัดขวางใคร อย่างเช่นกรณีเอกสารที่สื่อนำไปใช้ ก็ไม่เซนเซอร์ชื่อของตนเองเลย และขอให้สังคมอย่าเอาหลายเรื่องมาชนกันกับคนที่ร้องนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เพราะตนเองเป็นเพียงคนหนึ่งที่ถือหุ้นไอทีวี และมีสิทธิ์จะถามในที่ประชุม