มูลนิธิข้ามวัฒนธรรม (CrCF) รายงานว่า สิตานันท์พร้อมด้วยทนายความจาก Thai Lawyers for Human Rights (TLHR) และตัวแทนของ CrCF เดินทางไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ในวันพฤหัสบดี (25 มี.ค.) เพื่อให้ปากคำเรื่องการหายตัวไปของน้องชาย
สิตานันท์เอาเอกสารของเธอไปด้วย ซึ่งพิสูจน์ได้ว่านายวันเฉลิมอาศัยอยู่ในกัมพูชาก่อนที่เขาจะหายตัวไป รวมถึงเอกสารจากกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (TCSD) เกี่ยวกับการสอบสวนความผิดที่มีโทษตามกฎหมายไทยที่กระทำนอกประเทศ ภาพจากกล้องวงจรปิด กล้องภายในบ้านพักของวันเฉลิม ซึ่งเป็นบันทึกว่าเขาอาศัยอยู่ในกัมพูชา และหนังสือเดินทางที่ออกให้กับวันเฉลิมโดยทางการกัมพูชา สิตานันท์บอกกับผู้สื่อข่าวว่า แม้ตำรวจกัมพูชาจะบอกว่าหนังสือเดินทางและวีซ่าของวันเฉลิมหมดอายุในปี 2561 แต่เธอได้พบน้องชายที่ต่างประเทศหลายครั้ง และระหว่างการเดินทางเหล่านั้น วันเฉลิมใช้หนังสือเดินทางที่ทางการกัมพูชาออกให้เมื่อปี 2558
วันเฉลิมได้หายตัวไปเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2563 หลังจากที่เขาถูกลักพาตัวจากหน้าคอนโดในพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งเขาอาศัยอยู่หลังจากหนีออกจากประเทศไทยหลังการรัฐประหารในปี 2557 จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง