ทหารและตำรวจเมียนมาร์ได้ยิงและสังหารผู้คนไปกว่า 90 คนในวันนี้ อย่างน้อย 40 เมืองทั่วประเทศ “การสังหารหมู่ประชาชนที่ไร้อาวุธและผู้บริสุทธิ์อย่างต่อเนื่องนี้ต้องยุติลง” แมทธิว สมิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Fortify Rights กล่าว “ รัฐบาลไม่สามารถนั่งเฉยและเฝ้าดูการโจมตีนี้ได้อีกต่อไป การอยู่เฉยคือการสมรู้ร่วมคิด”
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม MRTV สถานีโทรทัศน์ของรัฐได้เผยแพร่คำเตือนต่อผู้ประท้วง โดยกล่าวว่า “ประชาชนควรเรียนรู้จากโศกนาฏกรรมก่อนหน้านี้ คุณอาจตกอยู่ในอันตรายจากการถูกยิงได้” ภาพถ่ายและวิดีโอที่เป็นประจักษ์พยานในวันนี้แสดงให้เห็นศพ ซึ่งรวมถึงเด็ก ๆ และทหารที่ยิงอาวุธตามท้องถนนกำลังลากเหยื่อที่ไม่มีชีวิตออกไป ทุบตีผู้คนอย่างไร้ความปราณี วิดีโอหนึ่งแสดงภาพการสังหารเด็กชายที่ไม่มีอาวุธในรถจักรยานยนต์ โดยทหารของกองทัพเมียนมาร์ในระยะใกล้ คำพูดและการกระทำของรัฐบาลทหารบ่งชี้ถึงการประสานงานกันในการสังหารในวันนี้ ทหารกำลังปฏิบัติตามคำสั่งให้ยิง และสังหารผู้ประท้วงที่ไม่มีอาวุธ
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม กรมธนารักษ์ของสหรัฐอเมริกาได้ออกมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่กับบริษัทที่อยู่ข้างทหารของเมียนมาร์ 2 แห่ง ได้แก่ บริษัทเมียนมาร์อีโคโนมิกโฮลดิ้งส์ จำกัด มหาชน (MEHL) และบริษัทเมียนมาร์อีโคโนมีคอร์ปอเรชั่น จำกัด และรัฐมนตรีต่างประเทศของสหราชอาณาจักรได้ออกมาตรการคว่ำบาตรต่อ MEHL ด้วย