นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ครม.ได้อนุมัติปรับค่าอาหารกลางวันนักเรียนจากเดิมคนละ 20 บาทเป็นคนละ 21 บาท ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป สำหรับโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการอาหารกลางวันสำหรับนักเรียน โดยแบ่งเป็นระดับชั้นอนุบาล 1 ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 มีโรงเรียนทั้งหมด 49,861 แห่ง และจำนวนนักเรียน 5,894,420 คน ถือเป็นงบประมาณทั้งสิ้น 25,436,304,000 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดนี้จะแบ่งให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีหน้าที่ดูแลในส่วนนี้ 23,561,921,200 ล้านบาท และสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สำหรับโรงเรียนเอกชนอีก 1,874,382,800 บาท
โดยการปรับเพิ่มครั้งนี้เป็นการปรับเพิ่มตามสภาวะเศรษฐกิจที่ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และค่าวัตถุดิบในการปรุงอาหารแพงขึ้น อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการที่เด็กทุกคนควรได้รับเช่นกัน ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการจะสามารถเริ่มดำเนินการปรับค่าอาหารกลางวันของนักเรียนทุกโรงเรียนที่อยู่ในโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2564 นี้เป็นต้นไป นอกจากนี้ที่ประชุม ครม.ได้พิจารณาความสอดคล้องของพระราชบัญญัติทั้ง 3 ฉบับ คือ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ, ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต และกฎหมายที่ประชาชนลงเข้าชื่อกัน เพื่อร่างเป็นข้อเสนอให้รัฐบาลพิจารณาถึงงบประมาณและค่าวัตถุดิบที่ต้องใช้ปรุงอาหารในครัวแต่ละโรงเรียนให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจที่ราคาของปรับสูงขึ้นอีกด้วย