กองกำลังติดอาวุธออกมาปกป้องข้อเสนองบประมาณ จากการวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนถึงการใช้จ่ายที่ไม่เหมาะสม
การเป็นพยานต่อหน้าคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร
พล.อ.วรเกียรติ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า “กระทรวงกลาโหมตระหนักดีถึงงบประมาณที่จำกัดของประเทศ จึงพยายามจัดลำดับความสำคัญในการจัดซื้ออาวุธและยุทโธปกรณ์ทางทหารอื่น ๆ ควบคู่ไปกับการดำเนินการตามแผนพัฒนาอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ” คณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรกำลังตรวจสอบงบประมาณการป้องกันประเทศจำนวน 197.2 พันล้านบาทที่เสนอสำหรับปีงบประมาณถัดไปซึ่งจะเริ่มในเดือนตุลาคม ในความเป็นจริง พล.อ.วรเกียรติ กล่าวว่า ทางกระทรวงได้รับงบประมาณน้อยกว่าตั้งแต่ปีงบประมาณ 2564 ซึ่งกองทุนของกระทรวงมีสัดส่วน 6.55% ของงบประมาณแผ่นดินทั้งหมด จำนวนเงินดังกล่าวลดลงเหลือ 6.51% สำหรับปีงบประมาณปัจจุบันและคาดว่าจะอยู่ที่ 6.19% ในปีงบประมาณหน้า
แม้ว่างบประมาณกลาโหมที่ได้รับอนุมัติสำหรับปีงบประมาณปัจจุบันจะคิดเป็น 1.22% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของประเทศ แต่จำนวนเงินที่ขอสำหรับปีงบประมาณที่จะมาถึงนั้นมีเพียง 1.10% ของ GDP โดยประมาณ เขากล่าว
การลดงบประมาณเหล่านี้เกิดขึ้นเนื่องจากงบประมาณการป้องกันประเทศโลกเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านล้านบาท การเพิ่มขึ้นทั่วโลกคาดว่าจะดำเนินต่อไปเนื่องจากความต้องการอาวุธ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความขัดแย้งทั่วโลก