สรยุทธยังต้องเข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติและสวมสร้อยข้อมืออิเล็กทรอนิกส์จนกว่าจะสิ้นสุดคำพิพากษาศาลอาญา เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2563 ได้สั่งจำคุกเขาเป็นเวลา 13 ปี 4 เดือนในข้อหาติดสินบนอดีตตัวแทน บมจ. อสมท. เพื่อปกปิดข้อมูลหลอกลวงค่าตัว 138 ล้านบาทที่บริษัทของเขาเป็นหนี้องค์กรสื่อของรัฐ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากกรมราชทัณฑ์ได้พาสรยุทธไปที่สำนักงานคุมประพฤติกรุงเทพมหานคร 7 เขตหลักสี่ ซึ่งพวกเขาได้ติดตั่งสร้อยข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ให้กับเขาเพื่อติดตามเขาหลังจากที่เขาถูกพิจารณาปล่อยตัวในสถานการณ์พิเศษ สรยุทธจะเข้ารับการคุมประพฤติและสวมสร้อยข้อมืออิเล็กทรอนิกส์จนกว่าจะครบกำหนดโทษจำคุก 2 ปี 4 เดือน ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2564 ถึง 26 กรกฎาคม 2566 และจะต้องรายงานไปยังกรมคุมประพฤติตามกำหนดจนกว่าการลงโทษจะสิ้นสุดลง เขาได้รับพระราชทานอภัยโทษ 2 ครั้ง ครั้งแรกในเดือนสิงหาคม ปี 2563 ทำให้ลดโทษเหลือ 6 ปี 24 เดือน และอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2564 ลดเหลือ 2 ปี 4 เดือน
เจ้าหน้าที่เรือนจำกล่าวว่า นายสรยุทธมีพฤติกรรมที่ดี และช่วยงานหลายอย่างในกรมราชทัณฑ์ การปล่อยตัวครั้งนี้ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและประชาชนที่คอยให้กำลังใจเป็นอย่างมาก
