นายหนึ่ง อายุ 42 ปี และนางน้อย อายุ 57 ปี สามีและแม่ภรรยาของนางนิด อายุ 37 ปี ผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาพบนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา โดยสามีผู้เสียชีวิตได้ลำดับเหตุการณ์ให้ฟังว่า ภรรยาตั้งครรภ์ได้เพียง 7 เดือน ฝากครรภ์ไว้ที่โรงพยาบาลอำเภอแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง กระทั่งวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้เกิดอาการปวดท้องอย่างหนักจึงไปโรงพยาบาล แพทย์ได้วัดความดัน ตรวจเลือดและอัลตร้าซาวด์ ก่อนจะแจ้งว่ามีภาวะเสี่ยงครรภ์เป็นพิษ และจะคลอดก่อนกำหนด ต้องรีบฉีดยาระงับการคลอด ไม่เช่นนั้นหากปล่อยคลอด ปอดลูกจะไม่แข็งแรงและต้องฉีดยา 4 เข็มติดต่อกัน ในระยะห่างกัน 12 ชั่วโมงด้วย โดยกำหนดฉีดยา

เข็มที่ 1 วันที่ 25 พ.ค. เวลา 18.00 น.

เข็มที่ 2 วันที่ 26 พ.ค. เวลา 06.00 น.

เข็มที่ 3 วันที่ 26 พ.ค. เวลา 18.00 น.

เข็มที่ 4 วันที่ 27 พ.ค. เวลา 06.00 น.

และให้นอนรอดูอาการในห้องเตรียมคลอด โดยห้ามญาตินอนเฝ้า

 

กระทั่งต่อมาเช้าวันที่ 27 พ.ค. มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลโทรศัพท์มาแจ้งให้ตนรีบไปที่โรงพยาบาล เพราะต้องส่งตัวภรรยาไปโรงพยาบาลจังหวัดด่วน เมื่อไปถึงตนเห็นเจ้าหน้าที่เข็นเตียงภรรยากลับเข้ามาที่ห้องเตรียมคลอด สภาพไม่ได้สติต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ หลังก่อนหน้านี้เกิดอาการชักเกร็ง จากนั้นไม่นานได้ส่งตัวไปโรงพยาบาลจังหวัดต่อ เมื่อไปถึงแพทย์ได้พาภรรยาตนเข้าห้องฉุกเฉิน โดยแจ้งว่ามีอาการน้ำท่วมปอด โอกาสเป็นตายเท่ากัน ส่วนลูกในครรภ์เสียชีวิตแล้ว จากนั้นแพทย์พยายามปั๊มหัวใจถึงสองรอบ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถยื้อชีวิตภรรยาตนไว้ได้ ส่วนผลชันสูตรสาเหตุเบื้องต้น ระบุว่าเสียเลือดมาก จากรกเกาะทะลุมดลูก ซึ่งตนติดใจว่าทำไมโรงพยาบาลอำเภอ ถึงตรวจอาการไม่เจอ และที่ผ่านมาผู้ป่วยที่มาโรงพยาบาลอำเภอต้องสูญเสียลูกและภรรยามาหลายเคสแล้ว ตนไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับใครอีก ทั้งนี้นางปวีณา หงสกุลได้ประสานไปยังพันตำรวจเอกวีพงษ์ กงแก้ว ผู้กำกับการ สภ.เมืองระยอง เพื่อให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความไว้แล้ว

 

ขณะที่นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข เผยว่าจะเร่งตรวจสอบเรื่องนี้และประสานไปยังสาธารณสุขจังหวัดระยอง เพื่อตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้ความเป็นธรรม และเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสียต่อไป รวมถึงตรวจสอบด้วยว่าทำไมเหตุใดจึงเกิดเรื่องลักษณะนี้ซ้ำ ๆ

เข้าชม 5 แชร์ 0
เกาะติดประเด็นสำคัญกดติดตาม "ข่าวสเตชั่น"

สังคมอื่นๆ