วันที่ 28 มิถุนายน 2565 เพจเฟซบุ๊กได้ออกมาให้คำแนะนำสำหรับวิธีการปฏิบัติตน เพื่อป้องกันอาการน้ำกัดเท้า โดยมีใจความ ดังนี้
น้ำกัดเท้า คือ อาการทางผิวหนังที่เกิดจากการแช่เท้าอยู่ในน้ำสกปรกเป็นเวลานาน หรือเท้าที่เปียกชื้นตลอดเวลา โดยมีอาการ ดังนี้
-
ในระยะแรก จะเกิดอาการระคายเคือง มีอาการเท้าเปื่อย คัน แสบ ลอก และเป็นระยะที่เป็นมาไม่นาน ไม่มีอาการติดเชื้อใด ๆ
-
ระยะที่สอง ระยะติดเชื้อแบคทีเรีย มีอาการผื่น บวมแดง มีหนอง ปวด มีรอยแผลเปื่อยที่ผิวหนัง ควรล้างด้วยน้ำเกลือหรือด่างทับทิม ทาแผลด้วยยาฆ่าเชื้อวันละ 2 - 3 ครั้ง กรณีติดเชื้อรุนแรงหรือในผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำควรไปพบแพทย์
-
ระยะที่สาม ระยะติดเชื้อราผิวหนัง เป็นผื่นเปื่อย ยุ่ย ลอก เป็นขุยขาว แสบ คัน มีกลิ่นเหม็น เป็นมานานมากกว่า 2 สัปดาห์ ควรรักษาโดยใช้ยาฆ่าเชื้อราทาบาง ๆ วันละ 2 - 3 ครั้ง
ข้อแนะนำ
-
ควรทำความสะอาดเท้าด้วยสบู่และน้ำสะอาด
-
จากนั้นเช็ดเท้าให้แห้ง
-
แล้วจึงค่อยทายาฆ่าเชื้อรา
ข้อควรปฏิบัติ มีดังนี้
-
ใส่ถุงเท้า รองเท้าที่สะอาด แห้ง ไม่เปียกชื้น
-
ล้างเท้าด้วยสบู่และน้ำสะอาด หลังย้ำน้ำ ลุยน้ำ และเช็ดเท้าให้แห้ง
-
ไม่ใช้ถุงเท้า รองเท้า ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้อื่น
-
ไม่เกาบริเวณที่เป็นแผล
ทั้งนี้สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ FDA Thai หรือ fda.moph.go.th