สืบเนื่องจากผู้ป่วยเด็กหญิงไทย อายุ 12 ปี  ได้รับการส่งตัวจาก โรงพยาบาลราชบุรี เมื่อวันอังคารที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยอาการไอ เจ็บกลางหน้าอก เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม  ซึ่งวันต่อมามีอาการไอมากขึ้น แน่นหน้าอก หอบเหนื่อย ตัวเขียว และได้เข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลราชบุรี ในวันที่ 25 ตุลาคมได้รับการรักษาโดยการให้ออกซิเจนความเข้มข้นสูง ให้ยาปฏิชีวนะ ยาขับปัสสาวะ ต่อมาผู้ป่วยยังมีอาการหายใจเหนื่อย จึงใส่ท่อหายใจและส่งตัวผู้ป่วยมาตรวจรักษาต่อที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ในวันอังคารที่ 26 ตุลาคม

จากการตรวจร่างกายที่สถาบันฯ พบว่า เด็กตัวเล็กและเตี้ยกว่าเกณฑ์มาก มีหลังคดโก่งรุนแรงและมีนิ้วปุ้มซึ่งเป็นอาการบ่งชี้ว่ามีภาวะขาดออกซิเจนเรื้อรัง ความผิดปกติของโครงสร้างร่างกายอาจทำให้ผู้ป่วยมีภาวะปอดขยายตัวไม่เต็มที่และมีพังผืดในปอดได้

และจากการตรวจหัวใจด้วยคลื่นความถี่สูงพบว่า การบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจดี ไม่มีสิ่งที่บ่งชี้ถึงภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และพบการอุดตันของหลอดเลือดแดงปอด จึงตรวจหัวใจเพิ่มเติมด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์พบลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดแดงปอดและพบว่าถุงลมในปอดขยายได้ไม่เต็มที่ และบางบริเวณมีปอดแฟบ

ทั้งนี้ ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยวิกฤต (PICU) สถาบันฯ ระหว่างวันที่ 26-31 ตุลาคม ได้รักษาโดยการให้ยาละลายลิ่มเลือด ดูแลทางเดินหายใจ โดยขณะนี้สามารถถอดท่อทางเดินหายใจและเปลี่ยนมาให้ออกซิเจนความเข้มข้นสูง ได้ตรวจหัวใจด้วยคลื่นความถี่สูงและเอกซเรย์คอมพิวเตอร์หัวใจอีกครั้งในวันที่ 29  ตุลาคม พบว่าก้อนลิ่มเลือดที่อุดตันมีขนาดเล็กลง เลือดไหลเวียนไปสู่ปอดได้ดีขึ้น การบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจดี และเมื่ออาการดีขึ้น ได้ย้ายผู้ป่วยเข้าดูแลในหอผู้ป่วยเด็กเฉพาะโรคในวันที่ 1 พฤศจิกายน ผู้ป่วยหอบเหนื่อยลดลง สามารถรับประทานอาหารได้

ด้าน ทีมกุมารแพทย์หลากหลายสาขาของสถาบันฯ ทั้งด้านโรคหัวใจ โรคปอด โลหิตวิทยา โรคภูมิคุ้นกัน ได้ร่วมกันดูแลผู้ป่วยรายนี้อย่างเต็มที่เพื่อหาสาเหตุที่อาจทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดปอด ทั้งนี้ ขอแจ้งให้ทราบว่าอาการของผู้ป่วยรายนี้ไม่ได้เกิดจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ

เข้าชม 180 แชร์ 0
เกาะติดประเด็นสำคัญกดติดตาม "ข่าวสเตชั่น"

แท็กที่เกี่ยวข้อง

โรงพยาบาลฉีดวัคซีนไฟเซอร์ICU

โควิด-19อื่นๆ