จากความคืบหน้ากรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ได้กล่าวในที่ประชุมถึงการเสาะหาวัคซีนที่จะนำมาฉีดให้คนไทยเพื่อเป็นภูมิต้านทานในการติดเชื้อโควิด-19 จะเป็นวัคซีนที่มาจากจีน และเอกสารขั้นตอนการดำเนินการทั้งหมดจะถูกส่งมายังประเทศไทยโดยเร็วที่สุดเพื่อให้ไทยขึ้นทะเบียนวัคซีน
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อไทยได้เกิดการระบาดระลอกใหม่เมื่อปลายปี พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมาอีกครั้ง จึงจำเป็นต้องเสาะหาวัคซีนเพิ่มเติมเพื่อให้เพียงพอต่อประชากรในประเทศ โดยเป็นวัคซีนจากจีนจำนวน 2 ล้านโดส โดยในสัญญาระบุว่าวัคซีน 2 แสนโดสแรกจะถูกส่งมาไทยในช่วง ก.พ. 2564 นี้ และเดือน มี.ค. อีก 8 แสนโดส และเดือน เม.ย. อีก 1 ล้านโดส ส่วนเดือน มิ.ย. จะเริ่มทยอยแจกจ่ายและเริ่มฉีดวัคซีนให้แก่คนไทย โดยวัคซีนดังกล่าวเป็นตัวที่ผลิตขึ้นในประเทศไทย
โดยนายอนุทินได้กล่าวเพิ่มเติมว่าไทยเป็นฐานผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ใช้สูตรเดียวกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของอังกฤษ อีกทั้งไทยยังเป็นส่วนหนึ่งใน supply chain อีกด้วย ในอนาคตจึงมั่นใจได้ว่าคนไทยจะสามารถถูกอำนวยความสะดวกและการจัดหาวัคซีนที่พอเพียง ดีกว่าการรอวัคซีนจากประเทศอื่นเพียงอย่างเดียว
