รถประจำทางและรถแท็กซี่ต้องเผชิญกับมาตรการป้องกันโรคที่เข้มงวดขึ้น

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมขนส่งทางบกกล่าวว่า กฎที่เข้มงวดขึ้นมีผลบังคับใช้ทันที และนอกเหนือจากมาตรการที่มีอยู่แล้ว เช่น การใส่หน้ากากอนามัย การล้างมือ และการใช้แอปพลิเคชันติดตาม ตามรายงานของพัทยานิวส์ กฎใหม่มีดังนี้

• รถโดยสารต้องมีความจุไม่เกิน 70% ต้องเว้นที่นั่งว่างไว้ระหว่างผู้โดยสารที่ไม่ได้เดินทางด้วยกัน แต่ 2 คนที่เดินทางด้วยกันอาจนั่งข้างกันได้
• ผู้ประกอบการต้องลดการเดินทางระหว่างเวลา 23.00 น. ถึง 04.00 น. ในกรุงเทพฯ และพื้นที่โซนสีแดงเข้มอื่น ๆ
• ผู้ปฏิบัติงานควรพิจารณาลดจำนวนยานพาหนะที่เดินทางไปและกลับภายในพื้นที่สีแดงเข้ม
• ผู้โดยสารต้องใช้แอปพลิเคชันติดตามและแสดงหลักฐานต่อคนขับว่าได้เช็คอินบนแอปฯ แล้ว
• คนขับรถบัสและรถตู้ควรจอดรถทุก ๆ 2 ชั่วโมงเพื่อเปิดหน้าต่างและดำเนินการฆ่าเชื้อโรค
• ผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ควรใช้น้ำยาฆ่าเชื้อในการเช็ดเบาะ แฮนด์รถ หรือที่จับด้านหลังของจักรยานยนต์ทุกคันระหว่างการโดยสารทุกครั้ง ลูกค้าที่ใช้รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างเป็นประจำควรนำหมวกกันน็อคมาเอง และหากผู้ขับขี่มีหมวกนิรภัยควรมีการฆ่าเชื้อทุกครั้งที่ลูกค้าสวมใส่
• ผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างควรละเว้นจากการพูดคุยกับลูกค้า เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 ที่อาจเกิดขึ้น ผู้ขับขี่และผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา

จิรุตม์กล่าวว่ามาตรการป้องกันโรคเพิ่มเติมกำลังดำเนินการ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่เห็นว่าการติดเชื้อโควิด-19 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะมีมาตรการด้านความปลอดภัย การปิดกิจการ และข้อจำกัดอื่น ๆ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครและพื้นที่สีแดงเข้มอื่น ๆ ส่วนใหญ่ยังคงรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงต่อวัน