นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมฯ ออกมากล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า การตรวจเลือดผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 จำนวน 3 โดส พบว่าแอนติบอดีของคนกลุ่มนี้มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ BA.5 น้อยกว่า เมื่อเทียบกับ BA.2 ตัวแปรย่อย
ผลจากการทดลองแสดงให้เห็นว่า BA.5 มีการหลบเลี่ยงแอนติบอดีได้ดีกว่า BA.2 และตัววัคซีนเองก็มีประสิทธิภาพน้อยกว่าในการต่อต้าน (BA.5) อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีน 3 โดสสามารถป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยในการป้องกันการเกิดอาการที่รุนแรง ในกรุงเทพฯ จำนวน 77% ของผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 มาจากตัวแปรโอไมครอน และมีการอาการป่วยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ในจังหวัดอื่น ๆ การติดเชื้อ BA.4/BA.5 คิดเป็นจำนวน 56% ของการติดเชื้อและมีอาการไม่รุนแรง และ BA.2 42% ในขณะเดียวกันเชื้อ BA.4/BA.5 คิดเป็น 74% ของการติดเชื้อ Omicron ที่มีอาการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต และการติดเชื้อ BA.2 มี 26% ดร.ศุภกิจ กล่าวว่าการติดเชื้อ BA.4/BA.5 มีความรุนแรงมากกว่าตัวแปรย่อยที่เคยพบ
