ปัญหาดังกล่าวได้ถูกเปิดเผยโดยผู้ใช้โซเชียลมีเดียที่วิพากษ์วิจารณ์บริษัท หลังจากพนักงานคนหนึ่งกล่าวว่าเขาถูกปฏิเสธการจ่ายเงินหลังจากที่ติดเชื้อโควิด-19 ในระหว่างที่ทำงานจากบ้าน แต่ชายคนนั้นไม่ได้บอกว่าเขาทำผิดกฎของบริษัทโดยการออกไปข้างนอก

นายทวีชญา ตังสหะรังษี โพสต์บนเฟซบุ๊กว่า บริษัทได้ออกนโยบายการทำงานจากที่บ้านเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อช่วยยับยั้งการแพร่ระบาด ขอให้พนักงานงดการเดินทางที่ไม่จำเป็น และไม่ออกไปสังสรรค์ พนักงานบริษัท 4 คนที่ไม่ได้รับค่าจ้างถูกกล่าวหาว่าไปที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อทานอาหารและซื้อของ หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ พวกเขาทั้งหมดก็เริ่มมีอาการคล้ายกับโควิด-19 และได้รับตรวจหาเชื้อพบว่ามีผลเป็นบวก บริษัทเริ่มตำหนิพนักงานและปฏิเสธที่จะจ่ายเงินให้ แม้ว่าสาเหตุของการติดเชื้อไวรัสจะไม่เป็นที่แน่ชัดในทางเทคนิค นายทวีชญากล่าวว่า 1 ใน 4 คนที่ติดเชื้ออยู่ในอาการวิกฤต และมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

จนถึงขณะนี้เขายังไม่รู้ว่าเขาติดไวรัสมาจากไหน หรือจากใคร เขาติดเชื้อแม้จะสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ยกเว้นขณะรับประทานอาหารจนถึงขณะนี้ยังไม่มีข่าวว่าบริษัทเปลี่ยนใจหรือไม่ ในขณะที่การติดเชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดในไทย ทางการของ 54 จังหวัดใน 77 จังหวัดของไทยได้ออกคำสั่งให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่ในที่สาธารณะ เพื่อพยายามชะลอการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้ฝ่าฝืนต้องโทษปรับสูงสุด 20,000 บาท

รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเตือนว่า มาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อกำหนดโทษปรับสูงถึง 20,000 บาท และมาตรา 18 ของพระราชบัญญัติเดียวกันระบุว่าผู้ฝ่าฝืนต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับสูงสุด 40,000 บาท

เข้าชม 31 แชร์ 0
เกาะติดประเด็นสำคัญกดติดตาม "ข่าวสเตชั่น"

โควิด-19อื่นๆ