เศรษฐกิจเมียนมาร์ได้รับผลกระทบจากการอ่อนตัวของค่าเงินจ๊าดที่สูงขึ้น

เงินจ๊าดอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 1,610 Ks ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ จากประมาณ 1,340-1,475 ในเดือนกุมภาพันธ์เมื่อการรัฐประหารและความไม่สงบเริ่มขึ้น

ความไม่มั่นคงทางการเมืองทำให้การส่งออกและการนำเข้าลดลง ทำให้สกุลเงินเมียนมาร์อ่อนค่าลงในเวลาต่อมา ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์เพิ่มสูงขึ้น ค่าน้ำมัน อุปกรณ์ โทรคมนาคม อาหาร ยา และสินค้าอื่น ๆ ที่ส่วนใหญ่นำเข้าก็เพิ่มสูงขึ้น “สินค้าในท้องถิ่น เช่น ข้าว น้ำมัน เกลือ พริกไทย หัวหอม มันฝรั่งยังไม่ขึ้นมากขนาดนี้ แต่สินค้านำเข้าทุกชนิดมีต้นทุนที่สูงขึ้น โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวกับครัวเรือนจากไทย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะจ๊าด ก็อ่อนค่าลงเช่นกัน อย่างไรก็ตามเราขายสินค้าที่เราได้รับจากผู้จัดจำหน่ายขายส่งโดยมีราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย” เจ้าของร้านขายสินค้าทั่วไปในเมียนมาร์กล่าว เมียนมาร์มีความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยและคนจนค่อนข้างมาก ตามที่สมาพันธ์ข้าวเมียนมาร์เปิดเผยว่า ข้าวถูกส่งออกไปยังจีนและเบลเยียมมากที่สุด ตัวเลขอย่างเป็นทางการอื่น ๆ ยังชี้ให้เห็นว่าในขณะที่ราคาในตลาดของผู้บริโภคทั่วไปสำหรับข้าวเพิ่มขึ้นน้อยมาก

สำหรับน้ำมันเบนซิน เว็บไซต์ราคาน้ำมันทั่วโลกของประเทศในอาเซียนอ้างว่า ณ วันที่ 19 เมษายน 2564 เมียนมาร์ชะลอตัวเพิ่มขึ้น 2.90 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ไทยเพิ่มขึ้น 1.80 และสิงคโปร์ 1.20 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าราคาในพื้นที่จะยังไม่พุ่งสูงขึ้น แต่ก็กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เศรษฐกิจเมียนมาร์ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 และผลกระทบจากการทำรัฐประหารภายในประเทศ