สำนักงานเศรษฐกิจการคลังแห่งประเทศไทย ออกมาเปิดเผยว่า ราชอาณาจักรไทยมีคลังสำรอง 2.02 ล้านล้านบาทในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา แต่ยังต้องกู้ยืมเงินประมาณ 658 พันล้านบาทเพื่อขจัดการขาดดุล
พรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังแห่งประเทศไทย ออกมาเปิดเผยว่า ประเทศไทยมีรายได้ 2.02 ล้านล้านบาท ในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 ถึงกรกฎาคม 2565 พรชัยเสริมว่าประเทศไทยมีรายรับเพิ่มขึ้น 2.9% หรือ 56,200 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีงบประมาณที่แล้ว เขากล่าวว่าจำนวนเงินที่สูงนี้เกิดขึ้นมาจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ การค้าระหว่างประเทศ และการบริโภค นอกจากนี้พรชัยยังได้ออกมาเปิดเผยค่าใช้จ่ายร่วมกันของประเทศในช่วงปีงบประมาณนี้ ซึ่งอยู่ที่ 2.69 ล้านล้านบาท โดยสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีงบประมาณที่แล้วที่ 371,000 ลบ.
ต้นทุนเพิ่มขึ้นเนื่องจากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐวิสาหกิจ และศาล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายการคลังระบุว่า รัฐบาลได้กู้ยืมเงิน 658 พันล้านบาทเพื่อเอาชนะการขาดดุล ทำให้ทุนสำรองคลัง ณ สิ้นเดือน ก.ค. มีมูลค่ารวม 501 พันล้านบาท
