กระทรวงพลังงานได้ออกมาอธิบายและสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการลดภาษีดีเซล 5 บาทต่อลิตร แต่ในความเป็นจริงผ่านภาษีที่ลดจริงเพียงแค่ 4.6 5 บาทต่อลิตรเท่านั้น โดยมีรายละเอียด ดังนี้
การลดภาษีดีเซล 5 บาทต่อลิตร ไม่ได้หมายความว่า ราคาน้ำมันดีเซลจะลดลง 5 บาทต่อลิตร อธิบายได้ ดังนี้
ภาษีดีเซล 5 บาทต่อลิตร เป็นการลดที่น้ำมันดีเซลล้วน ไม่ใช่ผสมไบโอดีเซล
เดิม
ดีเซลล้วนมีฐานภาษี 6.44 บาทต่อลิตร อัตราภาษีใหม่จัดเก็บที่ 1.44 บาทต่อลิตร ภาษีที่ลดลงคำนวณตามสัดส่วนของน้ำมันดีเซลที่ผสมอยู่ในน้ำมันไบโอดีเซล
วิธีคำนวณ
ดีเซล B7 มีสัดส่วนเนื้อน้ำมันดีเซล 93% และไบโอดีเซล 7%
เดิมฐานภาษี 5.99 บาทต่อลิตร
ใหม่
คำนวณจากสัดส่วนเนื้อน้ำมันดีเซลทั้งหมด 93% และไบโอดีเซล 7% อัตราส่วนที่ลดลง 5 บาท x สัดส่วนน้ำมัน 93% = 4.65 บาทต่อลิตร
ดังนั้นอัตราการเสียภาษีดีเซลจึงจัดเก็บ 1.34 บาทต่อลิตร คิดจาก 5.99 - 4.65 หรือกล่าวได้ว่า อัตราภาษีน้ำมันดีเซลลดลงจริงอยู่ที่ 4.65 บาทต่อลิตร ตามฐานภาษีที่แตกต่างตามส่วนผสมของปริมาณไบโอดีเซล
ทั้งนี้ทางสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้เปิดเผยว่า ณ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีการขยายมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลต่ออีก 2 เดือน เดิมสิ้นสุด 20 พฤษภาคม 2565 เป็นสิ้นสุด 20 กรกฎาคม 2565 โดยปรับลดอัตราภาษีลง 5 บาทต่อลิตร มาตรการเดิม 3 บาทต่อลิตร
ในส่วนของน้ำมันขายปลีกจะไม่มีการปรับลดภาษีลงมาเท่ากับน้ำมันดีเซล เนื่องจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องบริหารจัดการในการนำมาช่วยกองทุนน้ำมันพยุงราคาน้ำมันดีเซลให้ได้ยาวนานขึ้น เพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน
ทั้งนี้สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ กระทรวงพลังงาน หรือสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือโทร 02 - 140 - 7000