เหตุการณ์สะเทือนขวัญดังกล่าว เกิดขึ้นภายในบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 6 บ้านยางเครือพัฒนา ตำบลนาป่าแซง อำเภอปทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ ช่วงสายวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา โดยทางญาติของนายอำคา อายุ 38 ปี ผู้ต้องหา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ต้องหาเพิ่งเดินทางกลับมาจากบ้านภรรยาในหมู่บ้านใกล้เคียงกัน และระหว่างทางเกิดประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม พลเมืองดีจึงนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งผู้ต้องหาก็เกิดการคลุ้มคลั่ง ทำลายทรัพย์สินของโรงพยาบาล ใช้กำปั้นทุบประตูอาคารผู้ป่วยจนกระจกแตกเสียหาย เจ้าหน้าที่จึงติดต่อมาหาตนและแม่ให้เดินทางไปเกลี้ยกล่อมก็ทำให้อาการผู้ต้องหาสงบลง ก่อนจะเซ็นยินยอมชดใช้ค่าเสียหาย
จึงพากันเดินทางกลับบ้าน แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ผู้ต้องหาเกิดอาการคลุ้มคลั่ง จะทำร้ายแม่ตนเองจนผู้เป็นแม่ต้องหนีไปซ่อนตัว ชาวบ้านและญาติๆพยายามเกลี้ยกล่อม แต่ไม่เป็นผล ญาติ ๆ จึงตัดสินใจไปตามนางหนู ผู้เป็นย่าให้มาเกลี้ยกล่อมหลานชาย เนื่องจากว่า ผู้ต้องหาเคารพเชื่อฟังผู้เป็นย่ามาก แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นไปตามที่ทุกคนคาดหวัง เมื่อผู้เป็นย่าและอามาถึง พยายามเข้าไปห้ามเกลี้ยกล่อม กลับทำให้ผู้ต้องหายิ่งอาละวาดใช้ขวานไล่ฟันผู้เป็นอาออกมานอกบ้าน ก่อนจะย้อนวิ่งเข้าไปในบ้านและใช้ขวานฟันผู้เป็นย่าจนเสียชีวิต ก่อนจะลากรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ใกล้ ๆ มาทับร่างผู้เป็นย่าไว้ 2 คัน แล้วจุดไฟเผาทันที
อีกทั้งยังอาละวาดขว้างปาแท่งเหล็กใส่รถเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาระงับเหตุ และใช้ขวานไล่ฟันชาวบ้านที่ผ่านไปมาด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงจนสามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้สำเร็จ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ก่อนนำตัวฝากขัง ส่วนสาเหตุคาดว่าเกิดจากการเสพยาเสพติด
