เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองสุพรรณบุรี ได้ควบคุมตัว นายเมธี วัย 36 ปี และนางสาวอารีรัตน์ วัย 28 ปี สองสามีภรรยา มาสอบปากคำ โดยใช้เวลานานกว่า 7 ชั่วโมงในการพูดคุย ซึ่งนายเมธีผู้เป็นพ่อยังให้การวกวน นางสาวอารีรัตน์ผู้เป็นแม่ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง และไม่ใช่ครั้งแรก
ด้านยายของน้องผู้เคราะห์ร้าย เผยกับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำตาว่า สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าลูกสาวลูกเขยจะทำร้ายหลานรุนแรงขนาดนี้ ซึ่งหลานบอกว่าพ่อเป็นคนตี บ่อยด้วย ซึ่งหลังเกิดเหตุยังไม่ได้พบกัน หากเจอหน้าอยากจะถามว่าตีลูกทำไม และตนจะไม่ยอมอโหสิกรรมและไม่ยกโทษให้แน่นอน จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ส่วนหลานตนในฐานะยายกับตาจะขอเลี้ยงเอง ซึ่งถึงแม้จะมีรายได้เพียงเดือนละ 4,000 บาทก็ตาม ก็จะดูหลานให้ดีที่สุด ขณะที่ฝ่ายตา เล่าว่า ตนมีลูกสาว 2 คน แม่ของเด็กเป็นลูกคนโต ที่ผ่านมาหลังจากอยู่กินกับลูกเขยคนนี้ ไม่เคยทำความดีให้พ่อแม่ชื่นใจสักครั้งเดียว มีแต่สร้างปัญหา ขโมยเงิน ขโมยพระเครื่องเลี่ยมทอง ขโมยลอตเตอรี่ในบ้านไปขายเอาเงินไปซื้อยาเสพติดมาเสพกัน พอเงินหมดก็มาขโมยใหม่ และเคยแอบอ้างชื่อพ่อแม่ไปกู้ยืมเงินนมาซื้อเสื้อผ้าใช้จ่าย จนตนและภรรยาเอือมระอาขอตัดขาดจากการเป็นลูกเป็นพ่อเป็นแม่กันและสงสารหลานมาก
ทั้งนี้ด้านการดูแลน้อง และพี่ชายวัย 7 ปี ทางจังหวัดสุพรรณบุรี จะให้อยู่ในความดูแลของ ตาและยาย ซึ่งขณะนี้เด็กพ้นขีดอันตรายแล้ว
ส่วนทางคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา มีความผิดตาม พรบ. คุ้มครองเด็ก, ความผิดตาม พรบ. ความรุนแรงในครอบครัว, ร่วมกันทำร้ายร่างกาย และข้อหาเสพยาเสพติด
