เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านผู้เสียชีวิตคือ น้องแม็กกี้ อายุ 5 ปี และ น้องทีมมี่ อายุ 14 ปี ญาติได้นำศพตั้งบำเพ็ญกุศลไว้คู่กัน ท่ามกลางความโศกเศร้า ซึ่งชาวบ้านบางส่วนพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยญาติระบุว่าจะสวดอภิธรรมเพียงแค่ 1 คืน และจะทำพิธีฌาปนกิจในช่วงบ่ายของอีกวัน
ด้าน นางบุญมี อายุ 59 ปี ยายของน้องแม๊กกี้ เปิดเผยทั้งน้ำตาคลอว่า เลี้ยงน้องแม็กกี้มาตั้งแต่แรกเกิด เนื่องจากพ่อแม่แยกทางกัน ก่อนเกิดเหตุน้องทีมมี่ชวนน้องแม็กกี้ที่เป็นญาติกัน ไปเป็นเพื่อนตกปลาที่คลองคันคูรอบทะเลบัวแดง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านราว 300 เมตร กระทั่งใกล้มืดค่ำก็ยังไม่เห็นกลับมาบ้าน จึงพากันออกตามหาแต่ยังไม่พบ เหมือนมีอะไรมาบังตา จึงประสานให้ผู้ใหญ่บ้านประกาศเสียงตามสายให้ชาวบ้านช่วยตามหา จนพบรองเท้าและคันเบ็ดอยู่ริมคลอง ญาติและชาวบ้านจึงช่วยกันลงงมหาร่าง แต่ก็ไม่พบ จึงประสานให้อาสากู้ภัยมูลนิธิประชาพัฒนาธรรม มาช่วยงมร่างของหลานชายจนพบ รู้สึกเสียใจมาก เนื่องจากก่อนเกิดเหตุตอนเที่ยงวันยังนั่งกินข้าวอยู่กับยาย และวิ่งเล่น ก่อนมานั่งเล่นโทรศัพท์ยายจนแบตเตอรี่หมด และน้องทีมมี่ก็มาชวนไปเป็นเพื่อนตกปลา
ในขณะนั้นยายของน้องทีมมี่ไม่รู้ว่าหลานชายไปตกปลากับหลานของตนเอง และยังบอกว่าน้องทีมมี่อยู่ในห้อง คืนก่อนเกิดเหตุตนฝันเป็นลางว่าได้จุดบั้งไฟแต่บั้งไฟไม่ขึ้นฟ้า บั้งไฟกลับแตกอยู่ที่พื้น และ 2-3 คืนที่ผ่านมา มีสุนัขในหมู่บ้านทั้งเห่าและหอนเหมือนเป็นลางสังหรณ์ เหมือนกับเขามาเรียกเอาขวัญหลานชายไป เสียใจที่เขาอายุสั้นและมาเสียชีวิตแบบนี้
นายสุพจน์ อายุ 35 ปี พ่อของน้องทีมมี่ เปิดเผยว่า น้องทีมมี่เรียนอยู่ชั้น ม.2 เป็นลูกชายเพียงคนเดียว และชอบตกปลาเหมือนพ่อ เบ็ดที่น้องใช้พ่อก็ซื้อให้เมื่อหลายปีก่อน เป็นเบ็ดฝรั่งที่ใช้ล่อปลาช่อน ซื้อมาในราคา 3,000 บาท และวันไหนว่างจะพาน้องทีมมี่ไปตกปลา วันเกิดเหตุติดงานอยู่ที่ไร่อ้อย และไม่รู้ว่าน้องจะออกไปตกปลาข้างนอก รู้แค่ว่าขออนุญาตคุณย่าแล้ว ตอนเช้ายังนั่งกินข้าวเช้าด้วยกัน พูดคุยกันตามปกติ ไม่มีลางบอกเหตุอะไร จุดที่เกิดเหตุน้องทีมมี่ไม่ค่อยไปตกปลา เพราะทุกครั้งถ้าจะตกปลาจะออกไปกับพ่อเท่านั้น