เจ้าหน้าที่ตำรวจ ข้าปิดล้อมตรวจค้น 14 จุด 7 จังหวัด ประกอบไปด้วย กรุงเทพมหานคร จ.เชียงราย จ.ตาก จ.มหาสารคาม จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชลบุรี จ.นนทบุรี ได้คุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ ในฐานความผิดสมคบ 4 คน คือ นายวรวัฒน์ วังศพ่าห์ จับกุมได้ที่ จ.ประจวบคิรีขันธ์ นายเปี่ยมศักดิ์ บุญญชโลธร จับกุมได้ที่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายสุนันท์ สุตินกาศ จับกุมได้ที่ อ.เชียงแสนจ.เชียงราย และนางศิริวรรณ บุญญชโลธร จับกุมได้ทึ่ อ.แม่สอด จ.ตาก เป็นเครือข่ายคิงส์ นนทบุรี จากการตรวจสอบพบรถยนต์ซูบารุ สีดำ ทะเบียน ฉว 67 กทม. และรถยนต์ฟอร์ดมัสแตง สีขาว ทะเบียน ญต 67 กทม อาวุธปืน 40-50 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนมาก นาฬิกาหรูหลากหลายยี่ห้อ อาทิ โรเล็กซ์ ปาเต๊ะ พานาราย มูลค่ารวมกว่า 14 ล้านบาท เรือสปีดโบ๊ท 14 ลำ (ตรวจยึดได้ที่ประจวบคิรีขันธ์) ทองคำ และเงินสด จำนวนมาก
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมปีที่ผ่านมา ทางบก.สส.บช.น ได้จับกุมนายพิทวัส แสงโสภา และ นายชยุต ศุขทัศน์ หลังขยายผลเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่ทางตำรวจได้จับกุมเมื่อปี 2562 เป็นยาบ้ากว่า 1,043,800 เม็ด และยาไอซ์จำนวน 86 กิโลกรัมเมื่อเดือนมีนาคมปี 2564 โดยจากการจับกุมสองผู้ต้องหาได้ทำการตรวจค้นที่บ้านพักพบโทรศัพท์มือถือภายในมีข้อความสนทนาเกี่ยวกับการติดต่อซื้อขายยาเสพติดและการชำระค่ายาเสพติด โดยมีการโอนเงินค่ายาเสพติดไปยังบัญชีธนาคารที่อยู่ต่างประเทศ และเมื่อตรวจสอบเชิงลึกพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงเงินดังกล่าว โดยนายวรวัฒน์ ทำการเล่นแร่แปรธาตุเป็นสินค้าน้ำมันเพื่อนำเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดไปให้กับเจ้าของยาเสพติด โดยเปลี่ยนแปลงสภาพเป็นการซื้อขายน้ำมันส่งออกไปยังประเทศเมียนมาเป็นเงินกว่า 500 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังพบว่ากลุ่มผู้ต้องหากลุ่มนี้ทำหน้าที่รับโอนเงิน ที่ได้จากการค้ายาเสพติดมาฟอกเงินเป็นสินทรัพย์อื่นๆ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับกลุ่มของนายวรวัฒน์และพวกรวมสี่คน ในความผิดฐานสมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด, สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดก่อนหรือขณะกระทำความผิด, รับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพื่อประโยชน์หรือให้ความสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือเพื่อมีให้ผู้กระทำความผิดถูกลงโทษ และ ข้อหาสมคบเพื่อการฟอกเงิน
ทั้งนี้ รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า ส่วนทรัพย์สินรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด มัสแตง เชลบี จีที500 ปี 2020 ซึ่งเจ้าหน้าที่ป.ป.ส. ระบุว่า เป็นรถเกรย์มาร์เก็ต หมายถึงรถนำเข้าผิดกฎหมาย ไม่ผ่านกระบวนการทางศุลกากรที่ถูกต้อง อาวุธปืนหลายขนาดจำนวนมาก ตั้งแต่ปืนไรเฟิลและปืนสั้นที่ตกแต่งอุปกรณ์ราคาแพง ตู้เซฟ 4-5 ตู้ที่ต้องเอาไปตรวจสอบ นาฬิกายี่ห้อโรเล็กส์,ปาเต๊ะ มูลค่า 14 ล้านบาท, ทองคำมูลค่า 10 ล้านบาท อีกทั้งพบธุรกิจของนายวรวัฒน์ นอกจากขายน้ำมันส่งออก ยังพบการทำเรือยอร์ช เจ๊ตสกี มีอู่เรืออยู่อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ นาจอมเทียน จ.ชลบุรี ซึ่งรวมมูลค่าทรัพย์สิน 130 ล้านกว่าบาทด้วย