โดย นายจารุพันธ์ หรือ ต้น อายุ 33 ปี คนใกล้ชิดของ นายณัฎฐกรณ์ หรือ ต่อ อายุ 38 ปี ที่ไปหายจากบ้านไปอย่างลึกลับ ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม ได้ออกมาระบุ ถึงกรณีดังกล่าวว่า จากที่ดูหลักฐานที่พบในโครงกระดูกส่วนตัวเชื่อว่าเป็นโครงกระดูกของต่อ เพราะเห็นสมาร์ทวอทช์ที่เคยสวมข้อมือ และตนได้เคยใช้ร่วมด้วย จำได้ว่าเป็นของต่อ หลังจากเห็นภาพ รู้สึกตกใจและเสียใจมาก เนื่องจากที่ผ่านมาคิดอย่างเดียวว่าต่อหนีไป เพราะไม่อยากมาเจอความวุ่นวาย ที่เจ้าหน้าที่ค้นหาในป่า ส่วนตัวเชื่อว่าต่อไม่ได้หลงป่า เพราะเป็นคนในพื้นที่นั้น ส่วนสาเหตุที่ต่อ เข้าไปไกลถึงขนาดนั้น ตนไม่ทราบ แต่ขอยืนยันและสาบานได้ว่า ไม่เกี่ยวกับการเสียชีวิตของต่อใดๆ ทั้งสิ้น ตรงกันข้ามอยากให้ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีโดยเร็ว
ด้าน นางธง อายุ 55 ปี บอกว่า หลังจากที่ต่อ ได้หายตัวไป ลูกชายอยู่อย่างไม่มีความสุข เพราะติดต่อกับต่อไม่ได้ แต่มั่นใจในความบริสุทธิ์ของลูกว่า ไม่คิดจะทำอะไรที่รุนแรงขนาดนั้นได้ และอยากจะร้องขอความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลูกชายพร้อมให้ความร่วมมือหากจะมาสอบสวน แต่อยากให้ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา
ขณะที่ พ.ต.อ. ฉัฐวัชร วงศ์วาสน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังพบหลักฐานค่อนข้างแน่ชัดว่า บุคคลที่หายไปน่าจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่จะต้องรอผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ให้แน่ชัด จึงจะยืนยันได้ โดยหลังทราบผล คดีน่าจะคลี่คลายลง
ทั้งนี้เรื่องดังกล่าว ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อ วันที่ 12 ธันวาคม มีชาวบ้านที่ไปหาเก็บเห็ดบนเขาอังคาร เห็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า สีเหลือง หมายเลขทะเบียน 1 กค 6092 บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นรถของนายต่อ ที่หายตัวไป จอดทิ้งไว้ในป่าด้านทิศตะวันตกของหมู่บ้านเจริญสุข เขตรอยต่อบ้านถาวร ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 2 กิโลเมตร ทำให้แม่และญาติติดต่อเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือและเริ่มทำการค้นหา แต่ผ่านมากว่า 2 เดือนก็ยังไม่มีใครพบ กระทั่ง มีรายงานว่า พบโครงกระดูกมนุษย์ รวมถึงบัตรประชาชน ซึ่งตรงกับผู้ที่สูญหายอยู่บริเวณถ้ำหมาป่า ด้านทิศตะวันออกเขาอังคาร ห่างจากจุดที่พบรถจักรยานยนต์ของนายต่อ จอดทิ้งไว้ 2 กิโลเมตร จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียรติทราบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ พร้อมหน่วยกู้ภัยฯ และผู้นำชุมชน จึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง
