เรื่องนี้เกิดขึ้นในพื้นที่นาคำน้อยหมู่ 12 ต.นาคำ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดขอนแก่น ได้ลงพื้นที่เพื่อรังวัดที่ดินทันทีหลังรับแจ้ง พร้อมเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลนาคำ เจ้าหน้าที่ชมรม strong จิตรพอเพียงต้านทุจริต กำนัน ผู้บ้านและชาวบ้านกว่า 30 คน เข้าร่วมตรวจสอบด้วย
พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดิน 8 ไร่ ของนางพยุง ยมโคตร ก่อนหน้านี้เป็นถนนที่ชาวบ้านใช้สัญจรเข้าไปในพื้นที่ทำการเกษตร และใช้ประกอบพิธีบุญปากห้วยหรือบุญตบประทาย นางทองมา จิตรชาตรี อายุ 78 ปี 1 ในผู้เดือดร้อนบอกว่า ที่ดินของตัวเองอยู่ถัดเข้าไปจากที่ดินของนางพยุง เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา นางพยุงได้ล้อมรั้วนำป้ายมาติดห้ามสัญจร ทำให้เดือดร้อนไปทำนาไม่ได้ส่วนงานบุญตบประทาย จากนี้คงไม่มีอีกต่อไป
เช่นเดียวกับนายปรีชา จิกชาตรี อายุ 64 ปี ที่บอกว่าต้องใช้ถนนเส้นนี้เข้าไปทำนา ก่อนหน้านี้ตนได้ไปตรวจสอบที่สำนักงานที่ดิน อำเภออุบลรัตน์แล้ว ก็พบว่าที่ดินจุดดังกล่าว มีถนนเข้า - ออกได้ ตนจึงไปแจ้งให้นางพยุงรับทราบ แต่นางพยุงกลับบอกว่า “ถ้าอยากได้ให้เอาที่ดินมาแลก” ตนจึงนำหลักฐานไปร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรม จ.ขอนแก่น พร้อมยืนยันว่าถนนเส้นนี้มีมานานกว่า 80 ปีแล้ว พร้อมเดินทางมาเป็นพยานร่วมตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ครั้งนี้ด้วย
ด้านนายฉัตรชัย ข้อยุ่น ประธานชมรม strong จิตรพอเพียงด้านทุจริตประจำ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเอกสารได้ระบุว่าถนนเส้นนี้เป็นสาธารณะชัดเจน แต่นางพยุง เจ้าของที่ดินกลับยังยืนยันว่าเป็นที่ดินของตนเอง และผลการรังวัดในวันนี้ พบว่าต้องหาแนวเขตที่ดินเดิมใหม่ทั้งหมดเพราะพื้นที่บางแห่งที่มีในโฉนดไม่พบเส้นทางถนน แต่บางโฉนดก็มี ดังนั้นจากนี้จะต้องเร่งเจรจากัน ระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องและนางพยุง หากเจรจาไม่มีผล ต้องฟ้องศาลภายใน 90 วัน ไม่เช่นนั้นชาวบ้านที่ต้องไปทำไร่ทำนาจะต้องเดือดร้อนเสียหายตลอดชีพ