ชายคนดังกล่าว คือนายมด กล่าวว่า ตนขอโทษในสิ่งที่กระทำไป ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปทำร้ายร่างกายใครทั้งนั้น ซึ่งเหตุการณ์วันนั้นถ้าลูกค้าไม่ให้ตนเช็ดกระจกก็บอกกับตนดีๆ ตนจะได้ไปหาคันอื่น ยอมรับว่าตนเคยมีปัญหากับลูกค้าซึ่งเป็นรถขายผลไม้คันนี้ ตนเคยไปเช็ดกระจกแล้วลูกค้าก็มาชี้หน้าด่าทอตนจึงมีปากเสียงกัน วันนี้ก็ยอมรับผิดและจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีกับตน พร้อมห้ามไม่ให้เช็ดกระจกอีกต่อไป ตนเดือดร้อนเนื่องจากรายได้หลักนั้นจะเป็นการเช็ดกระจกโดยเฉลี่ยตกวันละ 300-400 บาท รวมๆเดือนหนึ่งก็ได้เงินหมื่นกว่าบาท หากต่อไปขายได้แค่พวงมาลัย รายก็ได้จะลดลงกว่าเดิม เพราะพวงมาลัยขายได้สูงสุดวันหนึ่งเพียง 160 บาทเท่านั้น
ด้านนายเมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ. รัตนาธิเบศร์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ ก็พยายามกวดขันในเรื่องนี้มาโดยตลอดและไม่ได้นิ่งนอนใจ เบื้องต้นก็เข้าใจว่าการขายของตามแยกหรือเช็ดกระจกก็เป็นช่องทางในการประกอบอาชีพของประชาชน แต่เมื่อใดที่มีความเดือดร้อน หรือสร้างปัญหา หน้าที่ตำรวจก็จะเข้าไปดำเนินการในเบื้องต้น ก็ได้กำชับในพื้นที่ของ สภ. รัตนาธิเบศร์ว่าไม่ให้มีเด็ดขาด หากพบเห็นพบเจอก็สามารถแจ้งได้ที่สภ. รัตนาธิเบศร์ ตนก็จะทำประวัติและดำเนินคดี รวมถึงไม่ให้เข้ามาในพื้นที่อีก เบื้องต้นแจ้งข้อหา ก่อความเดือดร้อนรำคาญต่อผู้อื่นในพื้นที่สาธารณะโดยปรับ 1,000 บาท